จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระบุว่า ทุนสนับสนุนประมาณครึ่งหนึ่งของการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ มาจากการโจรกรรม Crypto และการโจมตีทางไซเบอร์
รายงานของ Chainalysis เมื่อเร็ว ๆ นี้ระบุว่า แฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือยักยอกสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่า 1.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 โดยกลุ่มแฮ็กเกอร์ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงที่สุดอย่าง Lazarus Group อยู่เบื้องหลังการเจาะช่องโหว่จำนวนมากในปีที่แล้ว รวมถึงการโจมตีเครือข่าย Ronin มูลค่า 625 ล้านดอลลาร์
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า cryptocurrencies ที่ถูกขโมยหรือจากการโจมตีทางไซเบอร์จากกลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือ ถูกใช้เป็นเงินสนับสนุนโครงการขีปนาวุธ โดย Anne Neuberger – รองที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติด้านไซเบอร์และเทคโนโลยีเกิดใหม่ – กล่าวว่าหน่วยข่าวกรองสหรัฐกำลังพยายามระบุตัวคนร้ายและติดตามทรัพย์สินที่ถูกขโมยออกไป
แต่แม้จะมีข้อกล่าวหาจากโลกตะวันตก แต่เกาหลีเหนือยังคงมุ่งเน้นไปที่ความพยายามที่เกี่ยวข้องกับสงคราม ซึ่งทางการของประเทศระบุเมื่อเดือนที่แล้วว่าพวกเขาทดสอบขีปนาวุธที่ “ทรงพลังที่สุด” จนถึงปัจจุบัน โดยผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอาวุธใหม่จะสามารถโจมตีชาติอื่น ๆ รวมถึงสหรัฐฯ ได้เร็วขึ้นและมีผลกระทบรุนแรงมากขึ้น
คิม จอง อึน ผู้ดูแลการทดสอบ กล่าวว่า การทดลองจะทำให้คู่แข่ง “ต้องทนทุกข์ทรมานจากความกลัวและความวิตกกังวลอย่างมาก”