เจฟฟรีย์ ฮินตัน ผู้บุกเบิกด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีชื่อเล่นว่า “บิดาแห่ง AI” ได้ลาออกจาก Google เพื่อให้เขาสามารถพูดได้อย่างเปิดเผยมากขึ้นเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากเทคโนโลยี
ก่อนลาออก ดร. เจฟฟรีย์ ฮินตัน ทำงานที่ Google เกี่ยวกับอัลกอริทึม machine learning มากว่าทศวรรษ โดยมีรายงานว่าเขาได้รับฉายานี้เนื่องจากการทำงานตลอดชีวิตของเขาเกี่ยวกับ neural networks
อย่างไรก็ตาม ในทวีตเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ฮินตันชี้แจงว่า เขาออกจาก Google “เพื่อที่ผมจะได้พูดคุยเกี่ยวกับอันตรายของ AI”
In the NYT today, Cade Metz implies that I left Google so that I could criticize Google. Actually, I left so that I could talk about the dangers of AI without considering how this impacts Google. Google has acted very responsibly.
— Geoffrey Hinton (@geoffreyhinton) May 1, 2023
ในการให้สัมภาษณ์กับ New York Times ฮินตันเผยถึงความกังวลในทันทีที่เขามีต่อ AI คือ การใช้มันในการทำให้อินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยรูปภาพ วิดีโอ และข้อความปลอม ซึ่งเขาแสดงความกังวลว่าหลายคนจะ “ไม่สามารถรู้ได้ว่าอะไรคือความจริงอีกต่อไป”
นอกจากนี้ เขาเชื่อว่า AI อาจเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติ เนื่องจากมันสามารถเรียนรู้พฤติกรรมที่ไม่คาดคิดจากข้อมูลจำนวนมหาศาลที่มันวิเคราะห์
นอกจากนี้ เขายังแสดงความกังวลต่อการแข่งขันด้านอาวุธของ AI ที่ดำเนินอยู่ ซึ่งพยายามพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อใช้ในระบบอาวุธทำลายล้างอัตโนมัติ (LAWS)
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแล ผู้ร่างกฎหมาย และผู้บริหารในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ต่างก็มาแสดงความกังวลเกี่ยวกับการพัฒนา AI ด้วยเช่นกัน โดยในเดือนมีนาคม ผู้บริหารและนักวิจัยด้านเทคโนโลยีกว่า 2,600 คนได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกเพื่อเรียกร้องให้หยุดการพัฒนา AI ชั่วคราวโดยอ้างถึง “ความเสี่ยงอย่างลึกซึ้งต่อสังคมและมนุษยชาติ”
นอกจากนี้มีรายงานว่ามีการใช้เครื่องมือ AI สำหรับการบิดเบือนข้อมูล โดยตัวอย่างล่าสุดคือการเผยแพร่ข่าวปลอม ในขณะที่สื่อเยอรมันแห่งหนึ่งถึงกับใช้ AI เพื่อจำลองการสัมภาษณ์
โดยเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม Binance อ้างว่ากลายเป็นเหยื่อของข้อมูลผิด ๆ ที่มาจาก ChatGPT และได้แชร์หลักฐานของแชทบอทที่อ้างว่า CEO Changpeng “CZ” Zhao เป็นสมาชิกขององค์กรเยาวชนของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
To all the crypto and AI sleuths out there, here is the ChatGPT thread if someone wants to dig in. As you'll see ChatGPT pulls this from a fake LinkedIn profile and a non-existent @Forbes article. We can't find any evidence of this story nor the LinkedIn page ever existing. pic.twitter.com/szLaix3nza
— Patrick Hillmann 🤷🏻♂️👉 (@PRHillmann) May 1, 2023
บอทดังกล่าวเชื่อมโยงกับบทความของ Forbes และหน้า LinkedIn ซึ่งอ้างว่าเป็นแหล่งข้อมูล อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าบทความนั้น จะไม่มีอยู่จริง และโปรไฟล์ LinkedIn นั้นก็ไม่ใช่ของ Zhao