ทางการสหรัฐฯ กำลังดำเนินการในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อพยายามจำกัดผลกระทบทั่วทั้งระบบธนาคารของประเทศ หลังจากที่ธนาคาร Silicon Valley พังทลายลงอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 10 มีนาคม
ตามรายงานของรอยเตอร์ ที่อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่ไม่ระบุชื่อ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ในฝ่ายบริหารของ Joe Biden กำลังประเมินผลกระทบของความล้มเหลวของธนาคารในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยให้ความสนใจเป็นพิเศษกับบริษัท venture capital และธนาคารในภูมิภาค
“นี่จะเป็นการกระทำที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่แค่คำพูด” แหล่งข่าวบอกกับรอยเตอร์
ขณะที่ทางด้าน Martin Gruenberg ประธาน Federal Deposit Insurance Corporation (FDIC) ได้กล่าวถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกาว่า “สภาวะอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันมีผลกระทบอย่างมากต่อความสามารถในการทำกำไรและความเสี่ยงของกลยุทธ์การระดมทุนและการลงทุนของธนาคาร”
การล่มสลายของธนาคาร Silicon Valley (SVB) อาจส่งผลกระทบต่อธนาคารระดับภูมิภาคทั่วสหรัฐอเมริกา และทำให้เงินหลายล้านล้านดอลลาร์ตกอยู่ในความเสี่ยงที่ธนาคารจะดำเนินการโดยทางด้าน เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อจัดการกับการล่มสลายของ Silicon Valley และปกป้องนักลงทุน
“หน่วยงานกำกับดูแลตระหนักดีถึงปัญหาที่ผู้ฝากเงินจะประสบ โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็กที่จ้างคนทั่วประเทศ และแน่นอนว่านี่เป็นข้อกังวลที่สำคัญ และเราจะทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อพยายามจัดการกับข้อกังวลเหล่านี้”