Blur ตลาด NFT ที่เกิดขึ้นใหม่กำลังเปิดศึกกับเจ้าตลาดอย่าง OpenSea ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้นำตลาด แต่ดูเหมือนว่า Blur กำลังยึดครองส่วนแบ่งการตลาดไปอย่างช้า ๆ
จากข้อมูลของ Dune Analytics ที่รวบรวมโดย sealaunch.xyz พบว่า เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำใครบน OpenSea กำลังกลับมาเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ปรับตัวลดลงในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์
พร้อมกันนี้ยังพบว่า sale size เฉลี่ยต่อผู้ใช้บน Blur ลดลงอย่างมากหลังจาก airdrop ซึ่งตั้งแต่เหตุการณ์นี้ ปริมาณการซื้อขายของคอลเลกชันหลัก เช่น CryptoPunks, BAYC, Otherdeed, MAYC, Meebits, Moonbirds, CloneX และ Doodles ก็ลดลงบน Blur และเพิ่มขึ้นใน OpenSea แทน
Blur มีการอัปเดตนโยบายค่าลิขสิทธิ์ซึ่งระบุว่า ครีเอเตอร์ NFT ไม่สามารถรับค่าลิขสิทธิ์ทั้งบน Blur และ OpenSea พร้อมกันได้ โดยในช่วงที่เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน Blur ละเว้นจากการเก็บค่าลิขสิทธิ์เต็มจำนวน โดยไม่ได้บังคับให้ครีเอเตอร์เก็บค่าธรรมเนียมแต่ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อที่จะเลือกว่าจะปฏิบัติตามนโยบายค่าลิขสิทธิ์ของศิลปินหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ภายหลังได้มีการขยายเป็นค่าลิขสิทธิ์โดยมีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 0.5%
ปริมาณการซื้อขายของ Blur พุ่งสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ และแม้ว่าตัวเลขจะลดลงตั้งแต่นั้นมา แต่ปริมาณเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นโดยวาฬจำนวนเล็กน้อยที่ซื้อขาย NFT ไปมาเพื่อสะสมโทเค็น BLUR
Cryptoslam แพลตฟอร์ม tracking NFT เปิดเผยว่า 80.5% ของยอดขายของ Blur ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นการซื้อขายแบบ wash trading ส่วนในทางตรงกันข้าม ปริมาณการขายเพียง 2.6% ของ OpenSea เท่านั้นที่เป็นการซื้อขาย wash trading ในช่วงเวลาเดียวกันนี้