จากรายงานของกรุงเทพธุรกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ในวันที่ 2 ก.พ. 2566 มีมติด้วยคะแนน 6:4 ที่จะไม่ต่ออายุงานของนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล ในตำแหน่งเลขาธิการก.ล.ต. ที่จะครบวาระในวันที่ 1 พ.ค. 2566 ที่จะถึงนี้
สำหรับบอร์ด ก.ล.ต.มีรวมทั้งหมด 10 คน ซึ่งจะไม่นับรวมตำแหน่งเลขาธิการ ก.ล.ต. ประกอบด้วย
- นายพิชิต อัคราทิตย์ ประธานกรรมการ
- นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง
- นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ ผู้แทนปลัดกระทรวงพาณิชย์
- นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
- นายสุภัค ศิวะรักษ์
- นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย
- นายวิพุธ อ่องสกุล
- นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค
- นายพรชัย ชุนหจินดา
- นางสาวจารุวรรณ เฮงตระกูลล
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีปัญหาความขัดแย้งใน ก.ล.ต. ระหว่างกรรมการ กับ เลขาธิการ ก.ล.ต. ในทางความคิดและจุดยืนในการทำงานระหว่างเลขาธิการกับกรรมการ โดยมีสาเหตุมาจาก 3 ประเด็นใหญ่
1.เรื่องจุดยืน และความสัมพันธ์ของคนในเรื่องการปิดบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้สั่งอายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องกว่า 24 ราย บัญชีทรัพย์สิน 30 รายการ มูลค่าราว 4,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งคดีนี้พัวพันไปถึง เส้นทางการเงินในอดีต และการโอนเงินในกลุ่มครอบครัวของผู้บริหาร และครอบครัวของผู้ถือหุ้น
2.เป็นปัญหาที่ต่อเนื่องและคาราคาซังมาจากคำสั่งของก.ล.ต.ในกรณีของกลุ่ม BITKUB ที่มีปัญหาเรื่องระบบปฏิบัติการ การให้บริการ การสร้างปริมาณเทียมราคาเหรียญ จนนำมาซึ่งคำสั่งเปรียบเทียบปรับ เรื่องคุณสมบัติเหรียญ KUB ที่นำเข้ามาซื้อขายในกระดานสินทรัพย์ดิจิทัล
3.ปัญหาที่ต่อเนื่องมาจาก ซิปเม็กซ์ (Zipmex) ที่ประกาศระงับธุรกรรมการถอนคริปโทเคอร์เรนซี และเงินบาท จนก่อให้เกิดความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาทเศษและปัจจุบันยังจ่ายเงินคืนให้นักลงทุนไม่ได้
ทั้งนี้ แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่าทั้ง 3 ประเด็นดังกล่าว น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คณะกรรมการก.ล.ต.ลงมติไม่ต่อวาระการทำงานของนางสาวรื่นวดี ในตำแหน่งเลขาธิการ