รายงานล่าสุดที่เผยแพร่โดยบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน Dune เปิดเผยว่า เกือบ 60% ของปริมาณการซื้อขายโทเค็น NFT ในปีนี้เป็นการซื้อขายแบบ “Wash Trading”
Wash Trading เป็นรูปแบบหนึ่งของการจัดการตลาด ที่เทรดเดอร์จะซื้อและขายหลักทรัพย์เพื่อสร้างปริมาณการซื้อขายและกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นในตลาด ซึ่งในตลาด crypto กิจกรรมเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการซื้อและขายสินทรัพย์ดิจิทัล – เพื่อการเพิ่มปริมาณธุรกรรม โดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือการทำให้ผู้ใช้รายอื่น ๆ เข้าใจผิดว่ามีความต้องการสินทรัพย์ดังกล่าว
ตัวอย่างหนึ่งของการซื้อขายแบบ Wash Trading ในบริบทของโทเค็น NFT อาจเกี่ยวข้องกับผู้ซื้อขายที่เป็นเจ้าของ NFT เอง และต้องการสร้างความประทับใจว่า NFT เป็นที่ต้องการสูง โดยเจ้าของที่มีหลายกระเป๋าในตลาด NFT ก็จะใช้กระเป๋าหลาย ๆ ใบ เพื่อซื้อและขาย NFT กลับไปกลับมา ทำให้ดูเหมือนมีปริมาณการซื้อขายที่สูงและผลักดันราคาของสินทรัพย์นั้นให้สูงขึ้น
จากข้อมูลของ Dune การซื้อขายแบบ Wash Trade เริ่มได้รับความสนใจในอุตสาหกรรมคริปโตในปี 2019 แต่กลายเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ NFT ในปี 2022
บริษัทวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า NFT wash trading นั้นได้รับแรงหนุนจากการล่อลวงผู้ใช้ด้วยรางวัลโทเค็น เนื่องจากความสามารถในการแข่งขันที่สูงของพื้นที่และการเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ ๆ บ่อยครั้ง
ตามรายงานระบุว่า แพลตฟอร์มเช่น LooksRare และ X2Y2 มี wash trading ถึง 98% และ 87% ของปริมาณตามลำดับ
Dune ยังเปิดเผยว่าประมาณ 45% ของปริมาณการซื้อขาย NFT ทั้งหมดบน Ethereum เป็นการซื้อขายแบบ wash trades ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 30 พันล้านดอลลาร์ของปริมาณการซื้อขาย ส่วน OpenSea มีปริมาณการซื้อขายแบบ wash trades เพียง 2.4% และน้อยกว่า 1% ของปริมาณการซื้อขาย