Fidelity Digital Assets เผยแพร่ผลการศึกษาประจำปีเกี่ยวกับการลงทุนของสถาบันในสินทรัพย์ดิจิทัลเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา โดวพบว่าพื้นฐานของสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงแข็งแกร่งแม้จะมีปัญหามากมาย แต่ผลการศึกษาสรุปได้ว่าการนำไปใช้ในวงกว้างยังคงไม่สม่ำเสมออย่างมากในหมู่นักลงทุนประเภทต่าง ๆ
ในการสำรวจนักลงทุนสถาบัน 1,052 รายทั้งในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา Fidelity พบว่าการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกาและยุโรป 9% และ 11% กลายเป็น 42% และ 67% ตามลำดับ โดยเอเชียมีการยอมรับลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงเป็นผู้นำที่ 69%
หนึ่งในการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ที่สุดที่สังเกตเห็นได้คือความตั้งใจในอนาคตของนักลงทุนที่มีมูลค่าสุทธิสูงในสหรัฐฯ โดย 74% ของนักลงทุนในกลุ่มนี้วางแผนที่จะซื้อหรือลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต เพิ่มขึ้นจาก 31% ในปีก่อนหน้า ซึ่งโดยรวมแล้ว ตัวบ่งชี้นั้นเพิ่มขึ้นจาก 71% เป็น 74%
การค้นพบที่น่าทึ่งที่สุดในรายงาน อาจจะเป็นในส่วนของ “ช่องว่าง” ขนาดใหญ่ในการยอมรับในวงกว้างระหว่างนักลงทุนประเภทต่าง ๆ โดยนักลงทุนที่มีมูลค่าสุทธิสูง , กองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโต/ผู้ลงทุน , และที่ปรึกษาทางการเงิน มีการแสดงความใกล้ชิดกับสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่าบริษัทเอกชนที่จัดการด้านการจัดการการลงทุนและการบริหารความมั่งคั่งสำหรับครอบครัวที่ร่ำรวย , กองทุน บำเหน็จบำนาญ , กองทุนป้องกันความเสี่ยงแบบดั้งเดิม , เงินบริจาคและมูลนิธิ โดยพบว่า 82% ของนักลงทุนที่มีมูลค่าสุทธิสูง “ปัจจุบันซื้อ/ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล” ขณะที่มีเพียง 7% เท่านั้นสำหรับกองทุนเฮดจ์ฟันด์แบบดั้งเดิมและ 5% สำหรับกองทุนบำเหน็จบำนาญ
