การใช้งานคริปโตในประเทศต่าง ๆ
รายงานจาก Chainalysis ได้มีการรวบรวมข้อมูลเป็นแสดงให้เห็นถึงการใช้งานคริปโตของประเทศต่าง ๆ ประจำปี 2022 ซึ่งประเทศไทยถูกจัดเป็นอันดับ 8 ประเทศที่มีการใช้งานคริปโตมากที่สุด! ส่วนเวียดนามนั้นได้ครองแชมป์เป็นอันดับ 1 ไป
การเก็บรวบรวมข้อมูลของ Chainalysis จะมีการลงคะแนนตั้งแต่ 0 – 1 ยิ่งตัวเลขใกล้ 1 แสดงว่าประเทศนั้น ๆ มีการใช้งานคริปโตมาก และหากประเทศที่มีคะแนนใกล้ 1 ก็จะยิ่งมีสีเข้มขึ้น ตามภาพด้านล่าง
Chainalysis มีการเก็บรวบรวมข้อมูลจากปริมาณการทำธุรกรรมคริปโตที่ให้บริการบนโปรโตคอล, แพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์ให้บริการเทรดคริปโต และได้มีการแยกรวบรวมข้อมูลการใช้งานคริปโตของ Centralized Fianance (CeFi) และ Decentralized Finance (DeFi) ออกจากกันเพื่อความถูกต้องแม่นยำและเป็นธรรมในการให้คะแนนแต่ละประเทศ
จากข้อมูลของ Chainalysis ตามตารางด้านล่างจะเห็นว่าเวียดนาม, ฟิลิปปินส์, ยูเครน, อินเดีย, อเมริกา, ปากีสถานและบราซิลนำหน้าไทย ส่วนประเทศจีนนั้นอยู่ที่อันดับที่ 10 แม้ว่าจีนจะแบนการใช้งานคริปโตอยู่ก็ตาม แสดงว่าแม้รัฐบาลจะประกาศแบนคริปโตก็ไม่ได้ทำให้ผู้คนเลิกใช้คริปโตแต่อย่างใด
หากดูจากกราฟในปี 2022 อาจจะยังไม่ได้เห็นการนำคริปโตไปใช้งานเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 4 ของปี 2021 มีการใช้งานคริปโตเกิดขึ้นค่อนข้างเยอะแล้วค่อย ๆ ลดลงมาหลังจากนั้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะสภาพตลาดขาลงในช่วงนี้ด้วย
แต่ก็ยังดีที่ว่าปี 2022 นี้มีการใช้งานก็เพิ่มมากขึ้นจากปี 2019-2020 นักเทรดคริปโตสายถือยาวก็ยังคงถือคริปโตอยู่ต่อไม่ได้เทขายส่วนใหญ่ประเทศที่มีการใช้งานคริปโตมากส่วนใหญ่จะเป็นประเทศที่มีรายได้น้อย ซึ่งต้องพึ่งคริปโตเป็นเครื่องมือในการโอนเงินข้ามประเทศ และแทบจะครองตลาดคริปโตเลยก็ว่าได้ ในส่วนประเทศที่มีรายได้สูงกว่าก็จะใช้งานคริปโตน้อยลงไปด้วย
DeFi เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ
ปัจจุบันมีบริการที่สร้างขึ้นมาจากเทคโนโลยี Blockchain และคริปโตเคอร์เรนซีมากขึ้น เช่น เกมที่เล่นแล้วได้เงินไปพร้อม ๆ กันหรือที่เรียกว่า Play to Earn (P2E) และ DeFi รายงานเผยว่าเวียดนามมีการเล่น P2E และใช้ DeFi จำนวนมากทำให้บริการประเทศนี้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้มีการใช้งานคริปโตมากขึ้น
ที่มา : LINK