ตลาดหมี Crypto เป็นที่รู้กันว่ามักเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ส่งผลให้ราคาของ Bitcoin ( BTC ) ร่วงลง 37.9% ซึ่งเป็นประสิทธิภาพรายเดือนที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011 และเหลือเพียงผู้ถือที่ยังคงเชื่อมั่นและทุ่มเทมากที่สุดเท่านั้น ตามที่ Glassnode บริษัทวิเคราะห์บล็อคเชนรายงาน
แม้จะมีการต่อสู้ดิ้นรนอย่างต่อเนื่องของ Bitcoin และความจริงที่ว่าผู้ค้า crypto กำลังประสบกับตลาดหมีที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ตัวชี้วัดหลายตัวก็กำลังบ่งบอกว่าแนวโน้มยังไม่เลวร้ายอย่างที่คาดการณ์ไว้และฐานผู้ถือครองของตลาด crypto ยังคงแข็งแกร่ง
ในระหว่างการลดลงของจำนวนกระเป๋าที่มียอดคงเหลือไม่เป็นศูนย์ล่าสุด พบว่ามีเพียง 1% ของกระเป๋า Bitcoin เท่านั้นที่ขายการถือครองทั้งหมด เมื่อเทียบกับ 2.8% ระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม 2021 และ 24% ที่ทำเช่นเดียวกันระหว่างเดือนมกราคม ถึงมีนาคม 2018
ในขณะที่กิจกรรม on-chain สำหรับ Bitcoin ยังคงเงียบและมั่นคงในตลาดหมี แต่ผู้ถือ Bitcoin ที่ทุ่มเทมากที่สุดยังคงถือเหรียญของตน และมีแนวโน้มที่จะทำเช่นนั้นต่อไปจนกว่าความวุ่นวายในตลาดจะบรรเทาลงและราคา BTC พื้นฐานจะถูกสร้างขึ้น
กลับไปสู่แนวทางปฏิบัติ Bitcoin ที่ดีที่สุด
คำว่า “not your keys, not your crypto” กำลังได้รับความสนใจอีกครั้งในชุมชน crypto เนื่องจากมีผู้ใช้หลายคนต่างแห่ถอนโทเค็นออกจากเว็บเทรดอย่างรวดเร็ว หลังจากการล่มสลายของระบบนิเวศ Terra , ภาวะล้มละลายของ Celsius ที่อาจเกิดขึ้นได้ และการระเบิดตัวเองของ Three Arrows Capital ล้วนเป็นเครื่องเตือนใจอย่างยิ่งว่า crypto นั้นควรเก็บไว้กับตัวเอง
ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 จำนวน Bitcoin ที่อยู่ในเว็บเทรดลดลงจาก 3.15 ล้านเป็น 2.4 ล้าน นั่นคือการไหลออกทั้งหมด 750,00 BTC โดยมี 142,500 BTC ของทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา
ด้วยแพลตฟอร์มเช่น Celsius ที่หยุดการถอนเงิน และเว็บเทรดขนาดเล็กหลายแห่งที่เริ่มจำกัดจำนวนเงินที่ผู้ใช้สามารถถอนได้ ทำให้ผู้ใช้เริ่มกังวลกับเงินของตน
รายย่อยเริ่มกลับมาสนใจอีกครั้ง
การพัฒนาที่น่ายินดีอีกอย่างหนึ่งในช่วงเดือนที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ Bitcoin คือความสนใจที่เพิ่มขึ้นจากกระเป๋าเงินที่มีน้อยกว่า 1 BTC ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นตัวแทนของกลุ่มนักลงทุนรายย่อยของตลาด crypto
กระเป๋าเงินที่เรียกว่า “กุ้ง” เหล่านี้ได้รับ Bitcoin ในราคาต่ำอย่างกระตือรือร้นถึง 60,460 BTC ต่อเดือน ตามข้อมูลจาก Glassnode ซึ่งเป็น “อัตราที่เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์”