ในช่วงที่ตลาดขาลงทำให้ราคาของสินทรัพย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะหุ้นหรือคริปโตเคอร์เรนซีมีความผันผวน เรียกได้ว่าหาจุดต่ำสุดไม่เจอสักที แต่ยังมีบุคคลหนึ่งที่ยังคงเชื่อมั่นใน บิตคอยน์ และพร้อมที่จะซื้อมันไม่ว่าจะราคาไหนก็ตาม
พ.อ. ดร. วิชิต ซ้ายเกล้า ข้าราชการทหาร วิศวกรระบบ และ Bitcoiner คนแรก ๆ ของเมืองไทย เชื่อว่าบิตคอยน์คือสิ่งที่จะเก็บคุณค่าในสิ่งที่เราทำงาน เพราะการออมด้วยเงินกระดาษ (Fiat Money) ไม่อาจตอบโจทย์ในระยะยาว ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่สูง เก็บไว้ก็มีแต่ด้อยค่าลงเรื่อย ๆ
ภาพจากรายการ In FOCUS
โดยคุณวิชิต ได้ให้สัมภาษณ์กับทางรายการ In Focus ของทาง beartai BRIEF ว่าตัวเองเริ่มเข้ามาลงทุนในบิตคอยน์จากการขุดบิตคอยน์ จากนั้นตนเริ่มเข้าซื้อและเก็บมันมาเรื่อย ๆ โดยไม่ได้สนใจว่าราคาของบิตคอยน์จะกี่บาท ไม่ว่าจะแสนหรือล้าน ก็พร้อมซื้อบิตคอยน์ทุกราคา เพราะมันคือแหล่งกักเก็บมูลค่าที่เงินรูปแบบอื่นให้ไม่ได้
คุณวิชิตได้เปรียบเทียบบิตคอยน์กับที่ดินในย่านยอดนิยมของกรุงเทพฯ อย่างสีลม ที่มีราคาสูงและมีจำกัด โดยพูดถึงการแบ่งย่อยได้ของบิตคอยน์ (Divisibility) ซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้ถึง 100 ล้าน SAT (Satoshi) ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับทองคำหรือเงินกระดาษ เพราะที่ดินของย่านสีลมมีจำกัด แต่ความต้องการของคนไม่จำกัด จึงมีรูปแบบของการแบ่งย่อยโดยวิธีนี้ คือ
เจ้าของที่ดินปล่อยเช่า -> ผู้เช่ามาสร้างตึกบนที่ดิน -> เช่าพื้นที่ของตึกเพื่อทำสำนักงาน -> คนก็ไปทำงานใช้พื้นที่ได้ -> ถ้าไม่ทำงานในสำนักงานก็ทำอาชีพอื่น ๆ ในพื้นที่นั้นได้ นั่นคือสิ่งที่เหมือนกันของบิตคอยน์และที่ดินสีลม
ตารางเปรียบเทียบของ บิตคอยน์ ทองคำ และเงินกระดาษ
ดังนั้นแล้ว คุณวิชิตจึงมองว่าบิตคอยน์ มีความสามารถในการเป็นแหล่งกักเก็บมูลค่า สามารถเก็บมูลค่าน้ำพักน้ำแรงของคนทำงานได้ดีกว่าเงินกระดาษทุกมิติ เพราะถ้าถือเงินสดหรือเงินกระดาษไว้ สุดท้ายมูลค่ามันก็ด้อยลงทุก ๆ วัน ถือเงิน 1 ล้านไว้ 10 ปี มูลค่าก็ลดเหลือครึ่งเดียว
ที่มา: beartai BRIEF
