Ring บริษัทผู้พัฒนากริ่งประตูและกล้องวงจรเพื่อความปลอดภัยภายใต้ Amazon ดูเหมือนกำลังตกเป็นเครื่องมือของเหล่าแฮ็กเกอร์ หลังจากล่าสุด เกิดการแฮ็กอุปกรณ์ขึ้นในเท็กซัส และมีการเรียกร้องค่าไถ่จากเหยื่อสูงถึง 50 BTC หรือกว่า 10 ล้านบาท ไม่เช่นนั้นอาจมีอันตรายถึงชีวิต
Amador อายุ 28 ปี อาศัยอยู่ใน Grand Prairie กับแฟนหนุ่มของเธอ นอกเมืองดัลลัส ของเท็กซัส ซึ่งตกเป็นเหยื่อของแฮ็กเกอร์ดังกล่าว ระบุว่า “ฉันหลับอยู่ และสัญญาณเตือนภัยจาก Ring ก็ดังขึ้นเหมือนมีผู้บุกรุกเข้ามาในบ้านของเรา จากนั้นก็ได้ยินเสียงพูดของใครบางคนดังมาจากกล้องของเรา”
เสียงนั้นพูดว่า “นี่คือ Ring support เราขอแจ้งให้คุณทราบว่าบัญชีของคุณถูกแฮ็กจากแฮ็กเกอร์แล้ว” หลังจากพูดจบก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะเยาะ
และที่น่ากลัวกว่านั้น แฮ็กเกอร์ยังได้ขู่ให้ Amador จ่ายเงินจำนวน 50 Bitcoin (BTC) มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ไม่เช่นนั้นเธอจะถูกกำจัด หลังจากนั้น แฮ็กเกอร์ก็ได้ทำการแฮ็กกริ่งออดหน้าบ้านของเธอ และพูดว่า “เราอยู่หน้าประตูบ้านคุณ” เพื่อทำให้ดูเหมือนว่าพวกมันอยู่นอกบ้าน
Amador ซึ่งตอนนั้นตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่ายังไงก็ไม่จ่าย จึงตัดสินใจถอดแบตเตอรี่กล้องวงจรปิดออกทันที เพื่อตัดไม่ให้แฮ็กเกอร์มองเห็นและข่มขู่เธอต่อได้ “มันน่ากลัวมากที่ได้ยินคำขู่เหล่านั้นจากกล้องวงจรปิด” Amador กล่าว
“ยิ่งกว่านั้นความจริงที่ว่า มีคนกำลังเฝ้าดูเราอยู่และเราก็ไม่รู้ว่ามันแอบดูเรามานานแค่ไหนแล้วยิ่งน่ากลัวกว่า” อย่างไรก็ตาม ดูเหมือน Amador จะไม่ได้ถูกแฮ็กเพียงรายเดียว เนื่องจากมีผู้ที่ออกมารายงานถึงเรื่องราวการถูกแฮ็กของตนอีกหลายราย
อย่างในรายของ Josefine Brown ที่ได้ติดตั้งกล้อง Amazon Ring ในบ้านเช่นกัน บอกกับทางสำนักข่าว NBC ว่าถูกแฮ็กเกอร์แฮ็กกล้อง Amazon Ring และถูกพูดจาเหยียดผิวอย่างรุนแรงว่า “ลูกของคุณเหมือนลิงบาบูนมั้ย” Josefine กล่าว “ฉันกลัว…ฉันกลัวมาก ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นใครและนานแค่ไหนแล้วที่เขาเฝ้าดูเรา และฉันยังกลัวอยู่เลยตอนนี้”
และอีกราย จากในคลิปวิดีโอ ที่ถูกนำมาเผยแพร่จากสำนักข่าว เป็นภาพของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่กำลังค้นหาห้องของเธอเพื่อหาแหล่งกำเนิดของเสียงปริศนา ซึ่งกำลังพูดว่า “ฉันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ…ฉันคือซานตาคลอส – เธอไม่อยากเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันหรอ” โชคดีที่เด็กกลัว และโทรหาแม่ของเธอทันที
หลังจากข่าวการถูกแฮ็กแพร่ออกไป Ring ก็ถูกด่าจากลูกค้าที่ไม่พอใจเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวจากผลิตภัณฑ์ของตน ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อได้รู้ว่ากระบวนการแฮ็กนั้นค่อนข้างง่ายสำหรับแฮ็กเกอร์ โดยใช้ต้นทุนเพียง 6 ดอลลาร์สำหรับซอฟต์แวร์ที่จำเป็นในการแฮ็ก
ที่มา : LINK