Tripster ส่ง “Readme” Platform “Travel2earn” รายแรกของโลกบุกตลาดท่องเที่ยวสร้างรายได้แบบก้าวกระโดด พร้อมต่อยอดเปิดตัว Trip สกุลเงินดิจิทัลเพื่อรองรับการขาย Platform ไปสู่ทั่วโลกในอนาคตตั้งเป้ารายได้ 6,000 ล้านใน 5 ปี
คุณโฆษิต ขุมทรัพย์ CEO tripster.live เปิดเผยว่า “Readme” Travel Blogger Platform ที่เป็นสื่อกลางให้เหล่าบล็อกเกอร์เข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยวและที่พักเพื่อเป็นทางเลือกสำคัญผู้ที่สนใจนำข้อมูลไปวางแพลนทริปท่องเที่ยว รวมถึงการเลือกที่พักในสถานที่ต่างๆ ซึ่งได้รับความนิยมและความน่าเชื่อถือจากกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลกมานานกว่า 5 ปี โดยปัจจุบัน Platform Readme มีบล็อกเกอร์จากทั่วโลกเข้าร่วมมากกว่า 5,000 คน และมีโรงแรมมากกว่า 1,000 แห่งเข้าร่วม มีผู้เข้าใช้บริการ Platform มากกว่า 1 ล้านคนต่อเดือน และมีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดดหลังเหตุการณ์ Covid 19
Business Model ของ Readme Platform คือการเป็นสื่อกลางให้บล็อกเกอร์และเจ้าของธุรกิจที่พักโรงแรมได้มาเจอกันเพื่อแลกเปลี่ยนห้องพักให้กับเหล่าบล็อกเกอร์ได้เข้าพัก เพื่อนำประสบการณ์การท่องเที่ยวมาเขียนรีวิวในบล็อกเพื่อบอกต่ออย่างเป็นธรรมชาติและน่าสนใจ โดยเมื่อมีผู้อ่านรีวิวและเกิดการจองห้องพักจากเว็ปไซส์ที่กดผ่านจากทาง Blog รายได้ที่ได้รับจากคอมมิชชั่นก็จะถูกนำกลับมาจ่ายให้กับเหล่าบล็อกเกอร์และทาง Platform ด้วยBusiness Model นี้จึงสามารถสร้างมูลค่าให้เกิดขึ้นกับทุกปาร์ตี้ โรงแรมได้ยอดจากการขายห้องพัก, บล็อกเกอร์ได้ค่าคอมมิชชั่น และ Readme เกิดรายจากการเป็นสื่อกลาง
ความสำเร็จของ Readme ไม่ใช่เพียงแค่ความนิยมและการขายสินค้าในกลุ่มท่องเที่ยวเท่านั้นแต่นำเอา Travel Lifestyle ประสบการณ์จริงของเหล่า Blogger ที่ถูกนำมารีวิวกว่า 40,000 Blog มาต่อยอดเป็น Travel-to-earn แห่งแรกของโลกที่สามารถสร้างรายได้จริง ต่อยอดมูลค่าในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้อย่างสมบูรณ์ อาทิ การใช้ Influencer เข้ามาเพิ่มมูลค่าให้กับสถานที่พักและโรงแรม หรือการให้ Blogger สร้าง Content เพื่อจูงใจกลุ่มเป้าหมายเข้ามาใช้บริการ
การออกเหรียญ TRIP ในครั้งนี้เพื่อนำไปใช้ในการขยาย Readme Platform เพื่อให้ครอบคลุมและรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวให้ได้ไม่น้อยกว่า 30 ประเทศสร้างTraffic ให้เพิ่มขึ้นอีก 5 เท่าจากฐานผู้ใช้บริการในปัจจุบันพร้อมดันกลยุทธ์เติบโตต่อเนื่องภายใน 5 ปีตั้งเป้ารายได้ 6,000 ล้านบาท จากมูลค่าของตลาดท่องเที่ยวทั่วโลกที่อยู่ราว 60 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้สำหรับผู้ถือเหรียญ TRIP ยังสามารถนำมาใช้เป็น UTILITY TOKEN ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้ดังนี้
- สามารถซื้อ Deal ดีดีจากทางเราได้
- นำเหรียญมา Stake เพื่อได้ผลตอบแทนไม่ว่าจะเป็นเหรียญ หรือ Voucher ที่พัก
- มี Travel Pass NFT เพื่อนำไปร่วมกิจกรรมทั้งในโลกจริงและ Metaverse
- เที่ยวฟรีๆ สำหรับผู้ถือเหรียญ
- เที่ยวก่อนจ่ายทีหลัง
คุณโฆษิตกล่าวทิ้งท้ายว่า Tripster Project ถือว่าเป็นโปรเจคที่มีการสร้างรายได้ที่เกิดขึ้นจริงอยู่แล้วก่อนเข้าสู่โลก Blockchain ซึ่งถือว่าเป็นโปรเจคที่มีทิศทางการสร้างรายได้ที่จับต้องได้ และมีแนวทางการขยายเป้ารายได้ที่ชัดเจน ซึ่งจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มและ มีความนิยมจากผู้ลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลในอนาคตอย่างแน่นอน
โดย Tripster Project ถูกสร้างกลยุทธ์และจุดแข็งด้วยทีมบริหารที่มีประสบการณ์อยู่ในวงการ Travel tech มามากกว่า 20 ปี เชี่ยวชาญทั้งในเรื่องของ Direct booking และ OTAความสำเร็จจากการทำ Platform Readme ซึ่งถือว่าเป็นทีมที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการลงทุน
ตอนนี้โปรเจคกำลังอยู่ในช่วง Whitelist ผู้สนใจสามารถติมตามข้อมูลผ่านทางเพจ
Facebook.com/official.tripster
Website : tripster.live