ดูเหมือนว่านักลงทุนทั่วโลกจะเข้าสู่ปีใหม่ด้วยความเสี่ยงที่ลดลง และความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไร เช่น สกุลเงินดิจิทัลและตราสารทุนก็เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดการสูญเสียอย่างกว้างขวางในตลาด Cryptocurrencies โดย Bitcoin ที่ลดลงประมาณ 40% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกือบ $69,000 ในขณะที่ S&P 500 ก็ลดลงประมาณ 7% จากจุดสูงสุด เมื่อเทียบกับการขาดทุน 10% ในดัชนี Nasdaq 100
cryptocurrencies ทางเลือก (altcoins) ก็ลดลงมากกว่าเนื่องจากความเสี่ยงที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับ bitcoin โดย Ether ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ลดลงประมาณ 13% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เทียบกับ AVAX ที่ลดลง 14% และ FTM ลดลง 16% ในช่วงเวลาเดียวกัน
แต่แม้จะขาดทุน นักวิเคราะห์บางคนก็ยังคงคาดการณ์ถึงการดีดตัวในระยะสั้น “เราคาดว่า BTC จะพบแนวรับที่ราว ๆ $35,000 ซึ่งใกล้ถึง 50% จากจุดสูงสุด และในระยะสั้น มันอาจเด้งกลับเพื่อท้าทายโซน $45K-$55K แต่ภาพรวมยังคงมีแนวโน้มเป็นขาลง” Pankaj Balani ซีอีโอของ Delta Exchange ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายอนุพันธ์ crypto กล่าว
ตามข้อมูลจาก CoinGecko มูลค่าตลาดรวมของอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency ) ลดลง 11% เป็น 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.1 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน
มูลค่าตลาดที่ลดลงทั้งหมดทำให้ผู้ค้า crypto จำนวนมากมีความเสี่ยงสูง ตามข้อมูลจาก Coinglass พบว่ามีการชำระบัญชีเกือบ 600 ล้านดอลลาร์ โดยมี Bitcoin เป็นผู้นำในการชำระบัญชีที่ 250 ล้านดอลลาร์ ตามด้วย Ether ที่ 163 ล้านดอลลาร์ และ SOL ที่ 10.9 ล้านดอลลาร์
จากข้อมูลของ OKLink ปริมาณการชำระบัญชีของโทเค็นการเงินแบบกระจายอำนาจ ( DeFi ) สูงถึง 34.3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม
Bitcoin อยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดตลอดกาลที่ $69,000 ประมาณ 40% ซึ่งเป็นการขาดทุนที่สำคัญ แต่การลดลงจากจุดสูงสุดของ Bitcoin ตอนนี้นั้นยังรุนแรงน้อยกว่าในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับที่เกิดขึ้นในปี 2018 เมื่อการลดลงถึง 80%
