แนวโน้มขาลงของ Bitcoin ( BTC ) ยังคงขยายช่วงออกไปเล็กน้อยในวันที่ 3 ธันวาคม หลังจากที่ราคาลดลงต่ำกว่า $54,000 และผู้ค้าจะสังเกตว่ากราฟรายวัน BTC/USD แสดงปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ดูเหมือนว่านักลงทุนจะยังกังวลกับการเกิดขึ้นของรูปแบบใหม่ของ COVID-19 และความคิดเห็นที่ไม่ดีนักจากธนาคารกลางสหรัฐ ในขณะเดียวกัน Charlie Munger นักลงทุนรุ่นเก๋าก็ได้เพิ่มความร้อนแรงด้วยการเปรียบเทียบการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด crypto กับยุคดอทคอมที่จบลงด้วยฟองสบู่แตก
นักวิเคราะห์แนะนำว่าเมื่อ BTC หลุดจากช่วงราคาปัจจุบัน “กลุ่มแนวรับที่ชัดเจนที่สุดนั้นอยู่ที่ประมาณ 52,000 ถึง 53,000 ดอลลาร์” ซึ่งใกล้กับจุดที่ราคาพังลงในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ร่วงเมื่อต้นปี
“หากเราลงไปลึกกว่านั้น พื้นที่แนวรับที่แข็งแกร่งจะอยู่ที่ 200DMA ที่ 46,200 ดอลลาร์ และที่ระดับแนวรับที่ต่ำกว่าคือ 44,300 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน แนวต้านสำคัญนั้นอยู่ที่ 60,000 ดอลลาร์”
David Lifchitz หุ้นส่วนผู้จัดการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของ ExoAlpha แนะนำว่า การแพร่กระจายและผลกระทบของเชื้อ Omicron ของ COVID-19 ในฐานะสถานการณ์ที่ต้องจับตามอง ซึ่งอาจนำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจอีกรอบของรัฐบาล “ซึ่งจะช่วยเพิ่มหนี้ทั่วโลกและทำให้สกุลเงินอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับทองคำและสกุลเงินดิจิตอล”
ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาในปัจจุบันนั้น คล้ายกับการปรับฐานของราคาที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปีนี้ โดยนักวิเคราะห์และผู้ใช้นามแฝงนามว่า ‘Rekt Capital’ บน Twitter ได้โพสต์ภาพที่แสดงของราคา BTC ที่เกิดขึ้น ในเดือนกันยายน
“ในเดือนกันยายน BTC ถอยกลับลงมาถึง -25% และนี่คือช่วงเวลาที่นักลงทุน BTC รู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่ง จากนั้น BTC ก็กลับกลายเป็น ATH ใหม่ และตอนนี้ BTC ลดลงมา -23% ซึ่งก็มีแนวโน้มว่าค่า Fear & Greed Index จะแสดงความกลัวสุดขีดในเร็ว ๆ นี้”