หลังจากการลดลงเมื่อเร็ว ๆ นี้ในตลาดคริปโตเคอเรนซี ซึ่ง bitcoin ได้สูญเสียมูลค่าไปเกือบ 20% นับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งทำให้ความเชื่อมั่นทั่วไปในหมู่นักลงทุนได้เปลี่ยนไปอย่างมาก โดย Bitcoin Fear & Grid Index ได้เข้าสู่สถานะ “ความกลัว” เป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองเดือน
ความกลัวกลับมาอีกครั้ง
Bitcoin Fear & Greed Index เป็นตัวชี้วัดที่จะติดตามปัจจัยหลายประการภายในชุมชนสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อเปิดเผยความรู้สึกชั่วขณะต่อสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำ โดยวัดจากความผันผวนของสินทรัพย์ , ปริมาณโวลลุ่ม , ความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดีย , แบบสำรวจ และอื่นๆ โดยดัชนีให้ผลลัพธ์ตั้งแต่ 0 (“Extreme Fear”) ถึง 100 (“Extreme Greed”) โดยปัจจุบัน ตัวเลขได้ลดลงเหลือ 34 – ทำให้เข้าสู่อาณาเขต “Fear”
เป็นที่น่าสังเกตว่าครั้งสุดท้ายที่ตัวเลขนี้เข้าสู่สถานะ “Fear” คือเมื่อ 1 ตุลาคม และย้อนกลับไปตอนนั้น ราคาของ bitcoin อยู่ที่ประมาณ 42,000 ดอลลาร์ ตลอดเดือนตุลาคม แม้ว่าสกุลเงินดิจิทัลจะมีความก้าวหน้าที่สำคัญ โดยสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือการเปิดตัว ProShares Bitcoin Strategy ETF ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ได้รับการสนับสนุนจากฟิวเจอร์สรายแรกในสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นไม่นาน มูลค่า USD ของสินทรัพย์ดิจิทัลก็พุ่งสูงขึ้นและแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกือบ 65,000 ดอลลาร์
ปัจจัยอื่น ๆ ที่ช่วยให้ bitcoin เพิ่มขึ้นในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ได้แก่ การรับรองจาก SEC และ Federal Reserve ว่าสหรัฐฯ จะไม่แบน cryptocurrencies
ขณะที่สิบวันแรกของเดือนพฤศจิกายนก็ประสบความสำเร็จอย่างมากสำหรับ BTC เช่นกัน โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ราคาพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ที่ 69,000 ดอลลาร์ ขณะที่ market cap แตะ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) ประสบกับการปรับฐานครั้งใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 58,000 ดอลลาร์ ในขณะที่ความรู้สึกของนักลงทุน เปลี่ยนเป็น “Fear”
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคนในพื้นที่เชื่อว่าคริปโตเคอเรนซีที่อยู่ในสถานะดังกล่าวหรือแม้แต่ “Extreme Fear” นั้นเป็นตัวเลือกการซื้อที่ดีจริง ๆ