เมื่อเร็ว ๆ นี้ Bloomberg พบว่านักลงทุนกำลังปกป้องตนเองจากความกลัวว่าเงินเฟ้อจะพุ่งสูงขึ้นโดยการใช้ Bitcoin ซึ่งบริษัทเรียกมันว่า “การป้องกันเงินเฟ้อที่ดีที่สุด” โดยขึ้นอยู่กับว่าใครจะมองอย่างไร
Bitcoin เอาชนะเงินเฟ้อ
หลังจากวิเคราะห์ตัวเลขแล้ว John Authers จาก Bloomberg Opinion พบว่า Bitcoin มีภาวะเงินฝืดถึง 99.996% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยราคา 1 Bitcoin ในปี 2011 มีราคาเพียง 0.004% ของราคา 1 Bitcoin ในปัจจุบัน ในขณะเดียวกันค่า CPI ในดอลลาร์ได้เพิ่มขึ้น 28%
เมื่อไม่กี่วันก่อน ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นสู่ระดับใหม่หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯในเดือนต.ค. ซึ่งตั้งแต่ปีที่แล้ว ค่า CPI เพิ่มขึ้น 6.2% ทั่วประเทศ – นับว่าเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 1990 และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อใช้การวัด CPI ของปี 1980 พบว่าอัตราเงินเฟ้อก็เพิ่มขึ้นเกือบ 15%
นักเศรษฐศาสตร์ของ Bloomberg ประมาณการว่าประมาณครึ่งหนึ่งของราคา Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ เกิดจากความกลัวเรื่องเงินเฟ้อ อีกครึ่งหนึ่งเกิดจากการโมเมนตัมการซื้อขาย
การรับรู้ของผู้คนเกี่ยวกับ Bitcoin ว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเมื่อเดือนที่แล้ว Paul Tudor Jones ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์และมหาเศรษฐีพันล้าน เรียก BTC ว่าดีกว่าทองคำ ขณะที่ JP Morgan ก็มอง Bitcoin ด้วยเหตุผลเดียวกัน
ในขณะที่ปริมาณเงิน M2 ของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกือบ 40% ในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่นโยบายการเงินของ Bitcoin ซึ่งจะไม่มีวันมี Bitcoin มากกว่า 21 ล้าน BTC ทำให้เป็นสินทรัพย์ขาดแคลนที่น่าเชื่อถือ
อย่างไรก็ตาม Bloomberg ยอมรับว่า Bitcoin ยังไม่ได้รับความไว้วางใจเพียงพอที่จะนับเป็นการป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ โดย Wilfred Daye หัวหน้า Securitize Capital ยังคงกล่าวว่าทองคำเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แม้ว่า Bitcoin จะเป็น “แนวคิดใหม่สุดเซ็กซี่”
