Michael Miebach ซีอีโอของ Mastercard ได้กล่าวถึงมุมมองเชิงบวกของเขาต่ออุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล ในระหว่างการพูดคุยถึงรายได้กับนักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัท
โดยไม่เพียงแต่เห็นการเติบโตของผู้บริโภคจำนวนมากที่ใช้บัตรมาสเตอร์การ์ดเพื่อซื้อคริปโต แต่ยังได้รับความร่วมมือจากบริษัทต่าง ๆ แต่มุมมองที่ทะเยอทะยานที่สุดของ Miebach เกิดขึ้นระหว่างการสนทนาเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางหรือ CBDC โดยเค้ากล่าวว่า:
“เรากำลังบอกว่า ณ เวลานี้ โอกาสที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดสำหรับเทคโนโลยีประเภทนี้ที่จะทำงานเพื่อการชำระเงินก็คือถ้ามันออกผ่านรัฐบาลในรูปแบบของ CBDC ซึ่งเราเคยพูดไปแล้วสองครั้งก่อนหน้านี้ และเรากล่าวว่าเราจะทำให้เครือข่ายของเราพร้อมที่จะทำเช่นนั้นและเมื่อรัฐบาลพร้อมที่จะออก CBDC ที่จะมีอยู่ควบคู่ไปกับดอลลาร์หรือยูโรเป็นสกุลเงินที่ใช้ในการ settlement ในเครือข่ายของเรา”
Miebach ยังคงมั่นใจในบทบาทของมาสเตอร์การ์ดในเรื่องนี้ โดยระบุว่า “เราจะสามารถจัดเตรียมพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับธนาคาร , ภาครัฐ , และเอกชนในการหาวิธีที่จะใช้งานได้จริง”
การพูดคุยเรื่อง CBDC ยังคงได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 21 ต.ค. บาฮามาสกลายเป็นประเทศแรกในโลกที่ออก CBDC หรือที่เรียกว่า “Sand Dollar” และเพียงไม่กี่วันต่อมา ประธานาธิบดีไนจีเรีย Muhammadu Buhari ก็ประกาศแผนการที่จะเปิดตัว eNaira CBDC ของตัวเองในประเทศ
ตามสถิติของ Statistica มาสเตอร์การ์ดมีการประมวลผลธุรกรรมประมาณ 113 พันล้านรายการทั่วโลกในปีที่แล้ว รองจาก Visa ที่ 188 พันล้าน และ Union Pay ที่ 151 พันล้าน
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Mastercard เพิ่งประกาศว่าจะร่วมมือกับ Bakkt ซึ่งเป็นตลาดสกุลเงินดิจิทัล เพื่อให้ลูกค้าในสหรัฐฯ สามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลได้ และในเดือนกันยายน บริษัทประกาศว่าจะเข้าซื้อกิจการบริษัทวิเคราะห์บล็อคเชน CipherTrace เพื่อติดตามธุรกรรมที่ผิดกฎหมายในสกุลเงินดิจิตอลกว่า 900 สกุลที่แตกต่างกัน
อ้างอิง : LINK
