ศูนย์วิจัยกสิกรฯ เผยว่า คนไทยมีความสนใจลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีมากถึง 52.0% แม้ว่าจะมีความผันผวนสูง แต่ก็ให้ผลตอบแทนสูงเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น ๆ รายงานจาก infoquest
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าคริปโตเคอร์เรนซีกลายเป็นสินทรัพย์ทางเลือกใหม่ในหมู่นักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนที่พยายามแสวงหาสินทรัพย์ใหม่ๆ เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น จากภาวะอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่ยังอยู่ในระดับต่ำ รวมถึงในกลุ่มนักลงทุนที่ชื่นชอบความเสี่ยง และต้องการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ดำเนินการสำรวจการลงทุนในตลาดคริปโตกับกลุ่มตัวอย่างโฟกัสกรุ๊ป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพนักงานบริษัทเอกชนที่มีรายได้สูง อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
โดยกลุ่มตัวอย่างโฟกัสกรุ๊ปนั้น รู้จักคริปโตสูงถึง 69.4% และมีคนสนใจลงทุนในคริปโตมากถึง 52.0% และลงทุนจริงในปัจจุบันประมาณ 24.3%
ขณะที่กลุ่มที่ยังไม่ได้ลงทุน ก็มีความสนใจลงทุนในอีก 1 ปีข้างหน้าเช่นกัน โดยมีถึง 42% ที่ ขณะที่อีก 58% ยังไม่สนใจ
แต่กระนั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ก็ยังคงมีความเข้าใจเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลที่ค่อนข้างจำกัด โดยเข้าใจว่า Crypto เป็นเพียงระบบการให้บริการทางการเงิน หรือรู้จักแค่ Bitcoin และรู่แค่มีไว้เพื่อการลงทุนหรือเก็งกำไรเท่านั้น
ในส่วนเหตุผลที่เข้ามาลงทุนนั้น มีบางส่วนที่เข้าใจว่าราคาจะ “เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ” หรือเห็นเพื่อนหรือคนรอบตัวลงทุนแล้วได้กำไร
อย่างไรก็ดี นักลงทุนส่วนใหญ่ยังใช้เงินลงทุนจริงในตลาดคริปนี้ไม่มากนัก โดยจากกลุ่มตัวอย่างพบว่า มี 48.5% ที่ใช้เงินลงทุนในสัดส่วนไม่เกิน 10% ของเงินออม
โดยสรุปแล้ว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์ว่า การจะลดความเสี่ยงของการลงทุนในตลาดคริปโต จำเป็นต้องเข้าใจสภาวะความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาด และต้องอาศัยทักษะความรู้ทางการเงินและความรู้เท่าทันต่อเทคโนโลยีดิจิทัลควบคู่ไปด้วย ซึ่งนักลงทุนจำเป็นต้องเสริมสร้างทักษะความรู้และความเข้าใจอย่างต่อเนื่อง เพราะเทรนด์เทคโนโลยีนั้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว