วงการบล็อกเชนค่อนข้างเป็นอะไรที่แปลกใหม่และมีการพัฒนาของเทคโนโลยีอย่างมากมาย ซึ่งถือว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมาแทนที่ระบบทางการเงินแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินหรือแม้แต่พฤติกรรมการลงทุนด้วย โดยเฉพาะกลุ่ม DeFi (ย่อมาจาก Decentralized Finance) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ดอกเบี้ย มากกว่า 10เท่า ของดอกเบี้ยที่เราได้จากธนาคารแบบเดิมๆ สถาบันทางการเงินหลายแห่งก็เริ่มให้ความสนใจและศึกษาเกี่ยวกับ การโอนเงินรูปแบบใหม่นี้กันบ้างแล้ว
การกู้ยืมเงินในรูปแบบคริปโตนี้ ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่ในกลุ่มที่ทำการเทรด Bitcoinเท่านั้น แต่กำลังแพร่หลายไปในกลุ่มของผู้ลงทุนในธนาคารและสถาบันทางการเงินอื่นๆด้วย
เรามาทำความเข้าใจคร่าวๆเกี่ยวกับ crypto lending ecosystem กันดีกว่า Decentralized Finance หรือ ที่เรียกว่า DeFi นั้น คืออะไร
หลังจาก Bitcoin และคริปโตเคอเรนซี่ เริ่มเป็นที่ยอมรับและรู้จักมากขึ้น รัฐบาลและกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ ก็เริ่มที่จะคิดถึงกรณีศึกษาและข้อดีที่ เทคโนโลยีบล็อกเชน สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับความจริงที่ว่า โครงสร้างทางการเงินทั้งหมดนั้นจำเป็นจะต้องมีตัวกลางเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งมันเป็นอุปสรรคที่ทำให้เราไม่ไปถึงจุดที่เรียกว่า การกระจายอำนาจทางการเงินแบบสมบูรณ์เสียที และนี่เองทำให้ DeFi เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อภาพรวมทางการเงินทั้งหมด
ความพยายามที่จะสร้างระบบที่ไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางและเป็นการเงินระบบเปิด ในปี 2018 นั้น มีโปรเจคต่างๆที่ที่เข้ามาร่วมมือกัน ถึง 15 โปรเจค เช่น MakerDAO, Origin Protocol, Paradigm ตามมาด้วย Compound และ Kyber Network เป็นต้น ซึ่งบริษัทเหล่านี้ต่างทำงานบนกติการ่วมกันในเครือข่ายของ DeFi โดยการเสนอบริการทางการเงินบนบล็อกเชนที่ไม่มีตัวกลางเข้ามาเกี่ยวข้องอีกต่อไป และต้องยึดหลักความเป็น Blockchain ด้วยนั้นก็คือ ค่าธรรมเนียมที่น้อยลง เป็นการกระจายอำนาจให้กับทุกคน ไม่ต้องพึ่งพาตัวกลาง โปร่งใส และต้องเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของผู้ใช้งาน
ตอนนี้มีหลายโปรเจคในหลายๆรูปแบบเช่น exchange, prediction market, กระเป๋าเงิน, stable coins, liquidity protocols
DeFi ขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีนักลงทุนฝากสินทรัพย์ดิจิตัลไว้เพื่อคำประกัน และได้เงินกู้ไป ทำให้เกิดความคล่องตัวในตลาดมากขึ้น หรือเป็นการสร้างเหรียญชนิดใหม่ขึ้นมา ซึ่งเป็นตัวช่วยวัดมูลค่าที่อยู่ในระบบ DeFi ได้เป็นอย่างดี โดยมูลค่านี้มีชื่อว่า Total Locked Value (TVL)
จากกราฟด้านล่างจะแสดงให้เห็นว่า มีเงินกว่า 2.5 ล้าน USD ในระบบ DeFi ในปัจจุบัน
การขยายตัวของ DeFi
เหมือนที่ได้กล่าวไปข้างต้น โปรเจคที่มีอยู่ตอนนี้ในระบบ DeFi ได้แบ่งเป็นหลายๆส่วน เช่น การกู้ยืม ทรัพย์สินดิจิตัล เว็บเทรด (Decentralized Exchanges) และอนุพันธ์ ในหลายโปรเจคมีการขยายตัวในเรทที่สูงมาก และเราก็คิดว่ามันน่าจะเป็นแบบนี้ไปอีกในอีก 10 ปีข้างหน้า เพราะอุตสาหกรรมนี้ก็จะยิ่งมีคนรู้จักและเข้ามาใช้มากขึ้นเรื่อยๆ
ข้อดีของ Crypto Lending
การพัฒนาของบล็อกเชน เทคโนโลยี จะเข้ามามีส่วนช่วยทำให้ระบบกู้ยืมนั้นเป็นไปได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ถูกขึ้น และมีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้นทั้งฝั่งกู้และยืม ทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนบล๊อคเชนจะแสดงผลทันทีและไม่มีค่าธรรมเนียมด้วย หลักๆแล้วประโยชน์ของบล็อกเชน เทคโนโลยีที่จะมาช่วยการกู้ยืมแบบ Peer to peer มีดังนี้
มีค่าธรรมเนียมน้อยกว่า
ภายใต้การยืมเงินระหว่างบุคคลต่อบุคคล เวลาที่คนกู้จะขอทำเรื่องกู้นั้น จะต้องไปที่ธนาคารหรือสถาบันทางการเงิน ที่จะต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ เตรียมเอกสาร หรือต้องชำระค่าธรรมเนียมล่วงหน้าก่อนที่จะเริ่มดำเนินการเสียอีก อย่างเช่นในอินเดียค่าดำเนินการนี้อาจจะสูงถึง 20000 INR หรือประมาณ 8000 กว่าบาทไทยเลยทีเดียว ในขณะเดียวกัน การกู้ยืมเงินผ่านระบบคริปโตนั้น ผู้กู้ไม่จำเป็นต้องเสียค่าธรรมเนียมซักบาท นอกเสียจากว่าคุณจะไปใช้เว็บพวก Nexo, Nuo Bank, Ethland เว็บพวกนี้จะมีค่าธรรมเนียมบ้างเล็กน้อย ดังนั้น ถือว่าระบบคริปโตนั้นทำให้เราประหยัดเงินขึ้นนั่นเอง
ไม่ต้องหาเอกสารให้ยุ่งยาก และไม่ต้องใช้บัญชีธนาคาร
เวลาคุณกู้เงินแบบคริปโตไปเป็นเงินสด คุณอาจจะต้องใช้บัญชีธนาคาร แต่ถ้าคุณจะกู้เงินในระบบคริปโตด้วยกันเอง คุณไม่จำเป็นต้องเตรียมเอกสารและบัญชีธนาคารเลย ข้อดีข้อนี้ยังช่วยขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มคนที่ยังไม่มีเอกสารในการเปิดบัญชีกับทางธนาคารได้อีกด้วย
ไม่มีขอบเขต ไม่มีข้อบังคับ
การยืมเงินระหว่างบุคคลส่วนใหญ่แล้วจะโดนจำกัดในด้านของภูมิศาสตร์ อย่างไรก็ตาม การยืมเงินในคริปโตสามารถทำได้จากทั่วโลก จึงทำให้กลุ่มผู้กู้และให้กู้เพิ่มขึ้น และสามารถให้ยืมกันข้ามประเทศรวมถึงข้ามทวีปได้ คนกู้ก็สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ที่มากขึ้นได้เช่นเดียวกัน ถือว่า Win-Win
ความเสี่ยงที่มากับการกู้ยืมในระบบคริปโต
ไม่มีความคิดไหนหรือเทคโนโลยีอะไรที่ปลอดภัย 100% อยู่แล้ว ถึงการยืมเงินในระบบคริปโตจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน แต่ว่าถ้าคุณมีความรู้และรู้จักมันดีพอก่อนการตัดสินใจ คุณก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น (นอกจากตัวคุณเอง)
ในบทความต่อๆไปเราจะพูดถูกโปรเจคที่น่าสนใจในกลุ่ม DeFi เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ที่สนใจทุกคนได้รับข้อมูล และศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทรนที่กำลังจะบูมมากๆในอนาคตอันไกล้นี้
เครดิตคุณ Crypto Mhaiden
