สมาชิกรัฐสภาสหรัฐได้เรียกร้องให้มีการออกกฎหมายที่อนุญาตให้รัฐบาลระบุผู้ใช้สกุลเงินดิจิทัลและตรวจสอบย้อนกลับธุรกรรม Crypto “ในสภาคองเกรสมีความรู้สึกว่า หากคุณมีส่วนร่วมในธุรกรรม Crypto ที่ไม่ระบุตัวตน แสดงว่าคุณเป็นผู้มีส่วนร่วมในแผนการสมรู้ร่วมคิด” เขากล่าว
ตัวแทน Bill Foster ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นของกฎหมายโดยได้กล่าวถึงปัญหาของการโจมตี ransomware และวิธีที่อาชญากรเรียกร้อง bitcoin ไม่ใช่เงินสด โดยยังเน้นว่า “มีความแตกต่างพื้นฐานระหว่างสินทรัพย์ crypto และสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริง นั่นคือความแตกต่างที่สำคัญที่เราต้องทำในตัวบทกฎหมาย”
Foster ยังเน้นย้ำว่ากฎหมายจะต้องผ่าน เพื่อให้ศาล รัฐบาลกลาง สามารถระบุผู้ใช้ crypto และย้อนกลับการทำธุรกรรมใน bitcoin หรือ cryptocurrencies อื่น ๆ ได้ รวมถึง “เงื่อนไขที่เราสามารถเรียกคืนคริปโตเคอเรนซีได้” เช่น ค่าไถ่ที่จ่ายให้กับอาชญากร โดยสังเกตว่าเป็นหนึ่งในการตัดสินใจขั้นพื้นฐานที่ต้องทำเกี่ยวกับสินทรัพย์คริปโต
สมาชิกสภาคองเกรสชี้ให้เห็นว่ากฎหมายจะต้องระบุว่าสกุลเงินดิจิทัลนั้น ๆ ได้ “ไม่ว่ามันจะปกปิดตัวตนได้อย่างสมบูรณ์จริง ๆ ” นอกจากนี้ “จะต้องมีศาล บุคคลที่สาม ที่คุณสามารถไปตรวจสอบเพื่อย้อนกลับธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกงหรือการทำธุรกรรมที่ผิดพลาด”
Foster ยกตัวอย่างว่า “ถ้ามีคนลากคุณเข้าไปในตรอกและเอาปืนจ่อหัวคุณแล้วบอกว่าให้เอาโทรศัพท์มือถือของคุณและโอน bitcoin ทั้งหมดไปยังกระเป๋าเงินของมัน คุณจะแค่ถือว่าคุณโชคไม่ดีหรือคุณจะไปที่ศาล เพื่อขอให้พวกเขาเปิดโปงพวกมัน” นอกจากนี้ “ศาลสามารถทำได้ — หากพวกเขาตัดสินใจว่าธุรกรรมนั้นเป็นการฉ้อโกง อาชญากร หรือความผิดพลาด” … Foster เชื่อว่าการทำให้ผู้ใช้สามารถเปิดโปงผู้ใช้สกุลเงินดิจิทัลได้ อาจทำให้รัฐบาลและพลเมืองสหรัฐฯ หลบเลี่ยงการโจมตี ransomware ได้ในอนาคต
คำพูดของ Foster นั้นดูไม่น่าแปลกใจเลยที่จะโดนเสียงตำหนิอย่างรุนแรงจากชุมชนคริปโตที่ได้ยินคำพูดของเค้า บางคนก็บอกว่าเขาไม่ได้เข้าใจเลยว่า bitcoin ทำงานอย่างไร ขณะที่บางคนก็ตอบโต้ข้อกล่าวหาทางอาญาของฟอสเตอร์ โดยระบุว่าพวกเขา “ไม่ใช่อาชญากร”
อ้างอิง : LINK