Sam Bankman-Fried มหาเศรษฐีอายุ 29 ปี เจ้าของเว็บเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดและเติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในโลกที่เรียกว่า FTX และนอกจากนี้เค้ายังไม่ได้เป็นเพียงมหาเศรษฐีคริปโตที่ร่ำรวยที่สุดเท่านั้น เขายังมีผลกระทบเชิงบวกที่ใหญ่ที่สุดต่อโลก
Brendan Doherty : Sam ยินดีต้อนรับสู่ Icons of Impact สำหรับผู้ที่ไม่ได้อยู่ในโลก crypto พวกเขาอาจไม่รู้ว่าคุณได้สร้างบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วสองแห่ง คุณช่วยเริ่มต้นด้วยการบอกเราเกี่ยวกับ Alameda และ FTX ได้หรือไม่?
Sam Bankman-Fried: หลังจากเรียนจบ MIT ผมก็ไปทำงานที่ Jane Street Capital ประมาณสามปีครึ่ง มันเป็นประสบการณ์การทำงานที่ยอดเยี่ยม ผมออกจาก Jane Street Capital เพื่อเริ่มต้นแนวคิดของตัวเองและเข้าสู่ crypto
ธุรกิจแรกคือ Alameda บริษัท crypto quantum trading ซึ่งเราเห็นว่า crypto แสดงสัญญาณถึงความต้องการสภาพคล่องจำนวนมาก แต่ในตอนนั้นกลับมีสภาพคล่องน้อยมาก ทุกคนบนท้องถนนพูดถึงแต่ crypto ในช่วงเวลานั้น เราได้เห็นการเคลื่อนไหวของราคาและการไหลเข้าจำนวนมากซึ่งชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามีผู้คนจำนวนมากจากหลายประเทศที่พยายามซื้อสกุลเงินคริปโตที่แตกต่างกันโดยใช้วิธีการได้มาที่แตกต่างกัน แต่มันก็ยังไม่มีเวลาเพียงพอสำหรับผู้ซื้อส่วนใหญ่ทั่วโลกในการเข้าสู่ระบบนิเวศของ crypto
Doherty:นั่นคือโอกาสที่คุณเห็นใช่มั้ย การขาดโครงสร้างพื้นฐาน crypto?
Bankman-Fried: ใช่เรามองว่าโครงสร้างพื้นฐานยังไม่เพียงพอสำหรับตลาด crypto และนั่นหมายความว่าความต้องการอาจสูงกว่าสภาพคล่อง และอาจนำไปสู่ความห่างของสเปรดที่มากในตลาด ผมเข้าสู่ crypto เพื่อดูว่าสิ่งที่ผมคาดหวังจะเป็นจริงหรือไม่และมันก็เป็นเช่นนั้น
Doherty:ต่อจากนั้นก็คือการเปิดตัว FTX?
Bankman-Fried: หนึ่งปีต่อมาเราเริ่มสร้าง FTX ซึ่งเมื่อผมเริ่มต้นในเว็บเทรด crypto หากคุณต้องการซื้อ Apple ผู้ใช้โดยเฉลี่ยจะซื้อจากที่ไหนสักแห่งเช่น Robinhood และสถาบันอื่น ๆ โดยในช่วงปลายปี 2018 แพลตฟอร์มมันยุ่งเหยิงไปหมด พวกเขาสูญเสียทรัพย์สินของลูกค้าไปโดยเฉลี่ยวันละล้านดอลลาร์เนื่องจากไม่มีการคงไว้ซึ่งการทำงานใด ๆ สำหรับผมนั่นเป็นอาการของปัญหา แต่ไม่ใช่ปัญหาหลัก มันจึงดูเหมือนช่องว่างขนาดใหญ่และมีช่องว่างขนาดใหญ่ในตลาด ผมคิดว่าเราทำได้ดีกว่านี้ ผมต้องการรวมผู้ซื้อผู้ขายและการแลกเปลี่ยนเข้าด้วยกัน ดังนั้นเราจึงเปิดตัว FTX ในฤดูใบไม้ผลิของปี 2019 และในปัจจุบันก็เป็นเว็บเทรดสกุลเงินดิจิตอลที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลกซึ่งตั้งอยู่นอกประเทศจีน
Doherty : นั่นคือการเติบโตที่น่าทึ่ง ด้วยพื้นฐานดังกล่าว ผมต้องการเน้นการสนทนาที่เหลือของเราในส่วนของงานของคุณที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงจากสื่อ คุณมักจะได้รับแรงกดดันจากการซื้อขาย crypto ที่เคลื่อนไหวในตลาดและการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ผมสนใจอย่างอื่นที่ลึกกว่านั้นคือ โลกทัศน์ของคุณที่ทำให้ทุกสิ่งที่กล่าวมาเคลื่อนไหว คุณกล่าวว่าคุณต้องการให้ FTX มีผลกระทบเชิงบวกต่อโลกมากที่สุด งั้นมาเริ่มกันเลยว่ากระบวนการนั้นจะเริ่มต้นที่ไหนสำหรับคุณ?
Bankman-Fried:ขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจคืออะไร สำหรับเพื่อน ๆ หลายคนคำตอบของพวกเขาคือการทำสิ่งที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อให้กับโลกเพียงแค่การทำงาน เลือกองค์กรที่จะทำงานด้วย และส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งสำคัญ ผมคิดว่าชิ้นส่วนนั้นมักจะหายไปเมื่อมีการพูดถึงความเห็นแก่ผู้อื่นอย่างมีประสิทธิผล สำหรับ FTX เราให้ความสำคัญกับงบประมาณทั้งหมดของเรา ผมคิดว่ามันง่ายมากที่จะมองไม่เห็นว่าคุณให้ใครและกำลังทำอะไรกับเงินเหล่านั้น แต่สำหรับผมสิ่งที่ใหญ่ที่สุดคือการหาสาเหตุที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการบริจาค
โดเฮอร์ตี้: ก่อนหน้านี้คุณเคยพูดถึงการเห็นแก่ผู้อื่นที่มีประสิทธิผลในการสร้างรายได้ให้มากที่สุดเพื่อที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดด้วยเงินจำนวนนั้นในภายหลัง ผมคิดว่าอาจมีความตึงเครียดในนั้น นักวิจารณ์บางคนบอกว่าการคิดเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราเริ่มยุ่งเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ คุณจะตอบอย่างไร?
Bankman-Fried: ขั้นตอนหนึ่ง – สองเป็นเพียงการประมาณเท่านั้น ทุกขั้นตอนในการไปสู่ความเห็นแก่ผู้อื่นที่มีประสิทธิผลนั้นมีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม คุณต้องประเมินผลกระทบตามปัจจัยทั้งสอง ซึ่งมีหลายอาชีพที่เลวร้ายต่อโลก แม้ว่าคุณจะสามารถทำเงินได้มากมายจากการทำอาชีพเหล่านั้น แ ต่ก็อาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ดังนั้นหากผลกระทบที่คุณได้รับเป็นลบ แม้ว่าคุณจะใช้รายได้เหล่านั้นเพื่อตอบแทนองค์กรการกุศลที่มีประสิทธิภาพ คุณก็ไม่ควรได้รับเครดิตมากนักสำหรับสิ่งนั้น ผมคิดว่าคุณต้องเปรียบเชิงปริมาณเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมด สำหรับผมนั่นคือหัวใจหลักของการเห็นแก่ผู้อื่นที่มีประสิทธิผล คุณจะไม่สามารถหาจำนวนได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่คุณสามารถลองเปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นตัวเลขได้
Doherty: คุณสร้างความแตกต่างอย่างมากก่อนหน้านี้ว่าถ้ามีคนอย่าง Elon ทำรายได้หลายพันล้านจาก Tesla ซึ่งไม่เหมือนกับ Exxon ที่ทำเงินหลายพันล้านจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ทั้งคู่มีรายได้หลายพันล้าน แต่ภายนอกนั้นแตกต่างกันอย่างมาก
Bankman-Fried:ใช่มันยากที่จะโต้แย้งว่า Tesla กำลังสร้างความเสียหายให้กับโลกด้วยธุรกิจ คุณสามารถโต้แย้งได้ว่า Elon ทำดีอย่างมหาศาลด้วยการสร้างเทคโนโลยีสีเขียว หรือถ้าคุณไม่เชื่อใน Tesla คุณสามารถโต้แย้งได้ว่ามันเป็นเพียงการสิ้นเปลืองทรัพยากรแต่อย่างใด Tesla ไม่ใช่สิ่งที่ทำลายโลก
โดเฮอร์ตี้:ผมเห็นด้วย ตอนนี้เรามาพูดถึงเรื่องการทำบุญ สิ่งที่ผมเห็นคือคุณทำในสิ่งที่แตกต่างให้กับการทำบุญ โดยเฉพาะแนวคิดเรื่องการระดมทุน การมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค ผู้ชม และชุมชนของคุณในการตัดสินใจของมูลนิธิ FTX หมายความว่าอย่างไร
Bankman-Fried: เดิมทีเราออกแบบมาเพื่อนำ 1% ของเงินทั้งหมดที่ FTX ทำได้เพื่อบริจาคแก่การกุศล แต่นั่นจะไม่ใช่ปัจจัยที่ใหญ่ที่สุดในแง่ของจำนวนเงินที่ให้ เราคิดว่ายังมีขั้นตอนสาธารณะที่เป็นรูปธรรมที่เราสามารถดำเนินการได้ทันทีหรือไม่? ประเด็นคือเพื่อให้ผู้คนมีส่วนร่วมในกระบวนการกุศล ตัวอย่างเช่นผู้ใช้สามารถช่วยโหวตว่าเงินมูลนิธิของเราจะไปที่ใด หรือผู้ใช้ยังสามารถมีส่วนร่วมในมูลนิธิซึ่งมีผู้ใช้บางรายได้รวม่บริจาคถึง 5.6 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีผู้คนจำนวนมากที่ทำเงินได้มากมายในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาและพวกเขามีแนวโน้มที่จะคิดเกี่ยวกับผลกระทบที่พวกเขาจะได้รับ ดังนั้นนี่จึงเป็นวิธีที่ผู้คนสามารถเริ่มกระบวนการได้อย่างง่ายดาย
Doherty:เรามาพูดถึงประโยชน์ในสิ่งที่คุณอ้างถึงเป็นจำนวนมาก และเป็นอุปสรรคต่อความคิดของคุณ ช่วยอธิบายว่ามันมีความหมายกับคุณอย่างไร และมันเปลี่ยนแปลงการกระทำของคุณในโลกได้อย่างไร?
Bankman-Fried: ความหมายสำหรับผมเมื่อพูดและทำคือผมต้องการเพิ่มทุกเปอร์เซ็นต์ที่ทำได้และรวบรวมความสุขในโลกให้มากที่สุด คุณสามารถคิดว่านั่นคือความสุขทั้งหมดของคุณ ฟังดูเป็นอะไรที่งี่เง่าแต่แน่นอนว่าคุณต้องการทำอะไรแบบนั้น แต่จริง ๆ แล้วมันค่อนข้างทรงพลังและมีผลกระทบที่ชัดเจนในหลาย ๆ กรณี ซึ่งทั้งหมดนี้มุ่งเป้าไปที่แนวคิด “การเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด” บางคนบอกว่าตราบใดที่คุณไม่ทำอันตราย คุณก็มีชีวิตที่ดี ผมเชื่อว่ามันสำคัญพอ ๆ กับที่คุณต้องหาวิธีที่จะช่วยโลกใบนี้เช่นเดียวกับที่คุณหลีกเลี่ยงการทำชั่ว คุณควรคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังจะทำและคุณมีทางเลือกใดบ้างที่จะทำให้โลกกลายเป็นสถานที่ที่ดีที่สุด
โดเฮอร์ตี้: ผมพบว่าพ่อแม่ของคุณเป็นอาจารย์กฎหมายที่สแตนฟอร์ด พวกเขามีอิทธิพลกับคุณหรือไม่? หรือนั่นคือสิ่งที่คุณเจอด้วยตัวคุณเอง?
Bankman-Fried:ใช่ พวกเค้าทั้งคู่มีอิทธิพลดังนั้นผมจึงได้สัมผัสกับมันครั้งแรกเมื่อยังเด็ก
Doherty:ผมเคยได้ยินคำพูดที่น่าสนใจของคุณสองสามคำ คุณเคยพูดว่า “Money is the unit of caring” ฃ่วยบอกผมเพิ่มเติมที?
Bankman-Fried: มีหลายวิธีในการทำความดีในโลกนี้ วิธีหนึ่งคือการให้เงินเพื่อการกุศล นี่ไม่ใช่วิธีคิดที่สมบูรณ์แบบเสมอไป แต่เงินนั้นทรงพลังและเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ คุณต้องการหาวิธีที่จะทำให้สิ่งเหล่านั้นอยู่ในหน่วยเดียวกันไม่เช่นนั้นก็เป็นเพียงแนวคิดที่แตกต่างกัน มีข้อได้เปรียบอย่างมากในการสร้างหน่วยบางหน่วยหน่วยใด ๆ โดยประกาศว่าทุกอย่างถูกวัดในหน่วยนั้นและดำเนินการตามสกุลเงิน เมื่อคุณมีเงินแล้วคุณจะทำเงินนั้นได้ดีแค่ไหน? ที่ช่วยให้คุณเปลี่ยนจากเงินเป็นสิ่งที่ดี จากนั้นเมื่อคุณพยายามจัดการกับข้อแลกเปลี่ยนต่าง ๆ คุณสามารถคิดเกี่ยวกับมันในแง่ของจำนวนเงินพิเศษที่จะได้รับสำหรับสาเหตุที่ดีที่สุด
Doherty: แน่นอนและมันสามารถกำหนดเป้าหมายไปยังความต้องการที่แม่นยำได้มากขึ้น คุณเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าคุณ “มีชื่อเสียงในการทำโครงการที่ค่อนข้างใหญ่โต” โครงการต่อไปสำหรับคุณคืออะไร?
Bankman-Fried: มีไม่กี่แห่งที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะในขณะนี้ FTX ยังต้องใช้เวลาอีกมากพอสมควร โดยเป็นโครงการย่อยของตัวเองจริง ๆ แต่ส่วนมากก็คิดแค่ว่าอนาคตของบริษัทคืออะไร? อนาคตที่ทะเยอทะยานที่สุดคืออะไรและผมจะเดินทางจากที่นี่ไปที่นั่นได้อย่างไร? เป็นเรื่องง่ายที่จะคิดว่าทุกสิ่งที่คุณทำคือทั้งหมดที่คุณทำได้ – เมื่อเราคิดเกี่ยวกับ FTX ผมจะคิดว่าเราจะเข้าถึงกลุ่มประชากรอื่น ๆ ที่ไม่เคยเข้าถึงเรามาก่อนได้อย่างไร เราต้องทำอย่างไรเพื่อสร้างแบรนด์ระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ในขณะที่รักษาวัฒนธรรม ชื่อเสียง และความชื่นชอบที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้จะต้องใช้เวลาและความพยายามร่วมกันมากขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งใหม่สำหรับเราจริงๆ แต่สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญมากสำหรับการก้าวไปสู่เวอร์ชันที่ท้าทายที่สุดของ FTX
Doherty: ผมชอบสิ่งนั้น เราทุกคนต้องคิดว่าเราจะทำอะไรได้บ้างในชีวิตที่ทะเยอทะยานและเต็มที่ที่สุด ไม่ใช่แค่คนเดียวที่เราพอใจ ขอบคุณแซม การสนทนาของเราสนุกมาก
อ้างอิง : LINK
