FTX Trading Limited (FTX) มีปริมาณการซื้อขายต่อเดือนบนแพลตฟอร์มของตนถึงระดับ 4 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนเมษายน ทำให้เป็นเว็บเทรด crypto ที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลกตามปริมาณโวลลุ่ม และเป็นเว็บเทรดที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกในแง่ของส่วนแบ่งการตลาดและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามา
FTX เพิ่งฉลองครบรอบสองปีไปในวันที่ 8 พฤษภาคม โดยเดือนที่แล้ว FTX มีโวลลุ่มเฉลี่ยต่อวัน 14 พันล้านดอลลาร์ และ open interest สูงสุดที่สูงกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ซึ่งคิดเป็นการเติบโตประมาณ 25 เท่า จากเดือนเมษายนปี 2020
Sam Bankman-Fried ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ FTX กล่าวว่า “หลายปีที่ผ่านมาเราใช้เวลาดูสถานะของเว็บเทรด crypto ของโลก และพบช่องว่างในตลาดสำหรับแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้และปลอดภัยที่มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ค้าสถาบันและผู้ใช้ขั้นสูงอื่น ๆ และในเดือนพฤษภาคมปี 2019 เราได้เปิดตัว FTX โดยมุ่งมั่นที่จะปฏิวัติวิธีการดำเนินการซื้อขายในพื้นที่สินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งสองปีต่อมา FTX ก็ได้ก่อตั้งตัวเองในฐานะ บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตชั้นนำที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม”
ขณะนี้แพลตฟอร์มมีผู้ใช้ที่ลงทะเบียนแล้วประมาณล้านคน ตั้งแต่ผู้ใช้ระดับสถาบันที่มีประสบการณ์ไปจนถึง day trade , family offices และนักลงทุนสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งการเข้าซื้อกิจการ Blockfolio ของบริษัทเมื่อปีที่แล้วและการรวมการซื้อขายเข้ากับการเสนอขายเมื่อต้นปีทำให้สามารถใช้งานผ่านมือถือที่ง่ายสำหรับผู้ใช้ในการเข้าสู่พื้นที่ crypto นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ในระดับแนวหน้าในการให้นักลงทุนได้สัมผัสกับสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใครเช่น Futures, Spot Markets, Tokenised Stocks, Leveverage Token, Pre-IPO Contracts, Volatility Contracts, Prediction Markets, Currency Pairs, Staking และ OTC & ผลิตภัณฑ์สถาบัน.
ข้อเสนอที่ไม่เหมือนใครเหล่านี้ดึงดูดผู้ค้าที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น institutional quant trader ที่อาจต้องการใช้ประโยชน์จากความสามารถในการซื้อขายหุ้นที่เป็นโทเค็นตลอด 24 ชั่วโมงในทุกวัน ในขณะที่ผู้ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลสามารถใช้ leveraged tokens ในการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการโดน liquidations รวมถึงการจัดการหลักประกัน
นวัตกรรมเหล่านี้ และความปรารถนาที่จะเป็นเว็บเทรดที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลมาจากแรงผลักดันในการสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อโลก ซึ่ง Sam เป็นผู้สนับสนุนอย่างมีประสิทธิภาพและในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2564 มูลนิธิ FTX ก็ก่อตั้งขึ้นโดยมีหน้าที่นำรายได้ 1 เปอร์เซ็นต์จากค่าธรรมเนียมของ FTX ไปให้กับองค์กรที่มอบผลกระทบเชิงบวกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้กับโลก ซึ่งนับตั้งแต่ก่อตั้งมา มูลนิธิได้บริจาคเงินไปแล้ว 730,000 เหรียญสหรัฐให้กับองค์กรต่าง ๆ เช่น GiveDirectly , Clean Energy Innovation and Oxygen จากอินเดีย 7.4 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเงินส่วนใหญ่มาจากผู้ใช้แพลตฟอร์ม
Bankman-Fried กล่าวเสริมว่า:“ผมภูมิใจอย่างยิ่งกับเหตุการณ์สำคัญที่ทีมของเราประสบความสำเร็จในประวัติศาสตร์อันสั้นของเรา ซึ่งนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ FTX และเราจะพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะลดช่องว่างระหว่างเครื่องมือและบริการที่ใช้โดยนักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลและแบบดั้งเดิม เรามุ่งมั่นที่จะนำพาอุตสาหกรรมไปข้างหน้าด้วยนวัตกรรมและผ่านมูลนิธิ FTX เพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น”
อ้างอิง : LINK