Francisco Blanch นักวิเคราะห์ของ Bank of America ได้กล่าวตำหนิ Bitcoin ว่า “ผันผวนอย่างมาก” และเป็นสินทรัพย์ที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งไร้ประโยชน์ในฐานะการรักษาความมั่งคั่งหรือการป้องกันเงินเฟ้อ
Blanch ยังยืนยันว่า สกุลเงินดิจิทัลเป็นวิธีการชำระเงินที่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากสามารถจัดการธุรกรรมได้เพียง 1,400 รายการต่อชั่วโมงเมื่อเทียบกับธุรกรรม 236 ล้านรายการที่ดำเนินการโดย Visa
Blanch ยังเผยถึงความคิดที่ว่า Bitcoin เป็น safe haven ว่า “Bitcoin ยังมีความสัมพันธ์กับสินทรัพย์เสี่ยง โดยไม่ได้เชื่อมโยงกับอัตราเงินเฟ้อและยังคงมีความผันผวนอย่างมากทำให้ไม่สามารถใช้รักษาความมั่งคั่งหรือกลไกสำหรับการชำระเงิน” นักวิจัยของธนาคารแห่งอเมริการะบุ
“ด้วยเหตุนี้ข้อโต้แย้งหลักในการถือ Bitcoin จึงไม่ใช่การกระจายความเสี่ยงผลตอบแทนที่มั่นคง หรือการป้องกันเงินเฟ้อแต่เป็นการแข็งค่าของราคา ซึ่งเป็นปัจจัยที่ขึ้นอยู่กับความต้องการของ Bitcoin ที่แซงหน้า Supply”
นักวิเคราะห์ของ BoA ยังระบุว่า Bitcoin มีการปล่อยคาร์บอนสูงกว่ากิจกรรมอื่น ๆ ของมนุษย์ในแง่ของ dollar-for-dollar inflows โดยรายงานประเมินว่าการใช้พลังงานของ Bitcoin เพิ่มขึ้นมากกว่า 200% ในช่วงสองปีที่ผ่านมา และตอนนี้เทียบเท่ากับเนเธอร์แลนด์ , กรีซและสาธารณรัฐเช็ก
รวมไปถึงการที่ราคาสูงขึ้น ทำให้เกิดความยากลำบากในการขุด ซึ่งจะเพิ่มการผลิตคาร์บอนของการขุด Bitcoin อย่างไม่ต้องสงสัย
นักวิเคราะห์ของ BoA คำนวณว่าการลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน Bitcoin ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเช่นเดียวกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน 1.2 ล้านคันในช่วงเวลาหนึ่งปี ซึ่งหมายความว่าการลงทุน 1.5 พันล้านดอลลาร์ของ Tesla นั้นเทียบเท่ากับการเพิ่มรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมัน 1.8 ล้านคันบนท้องถนนในแต่ละปี
เป็นที่น่าสังเกตว่ารายงานของ BoA คือมุมมองของนักวิเคราะห์เพียงรายเดียวและความคิดเห็นที่แตกต่างกันไปในองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งแม้แต่ใน Goldman Sachs ก็ยังมีหน่วยงานบางแห่งที่วิพากษ์วิจารณ์ Bitcoin ในขณะที่ก็มีหน่วยงานอื่น ๆ ที่พูดถึง Bitcoin ว่าเป็นอนาคต
อ้างอิง : LINK