การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนเป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันอยู่ถึง แต่ข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริงและไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการฉ้อโกงการเลือกตั้งจากประธานาธิบดีทรัมป์ที่พ่ายแพ้ ด้าน Daniel Hardman หัวหน้าสถาปนิกและหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยข้อมูลของโซลูชันการระบุตัวตน Evernym คิดว่า blockchain อาจช่วยในการลงคะแนนเสียงในอนาคต
“โดยพื้นฐานแล้ว blockchain สามารถเป็นช่องทางให้ผู้ลงคะแนนสามารถลงทะเบียนเพื่อลงคะแนนได้อย่างน่าเชื่อถือและปลอดภัย จากนั้นเมื่อมีการลงคะแนน blockchain ก็สามารถเป็นกลไกในการพิสูจน์ว่าใครมีสิทธิ์ในการลงคะแนน โดยพิจารณาจากการลงทะเบียนก่อนหน้านี้” Hardman กล่าว “Blockchain ยังสามารถให้คุณสมบัติบางอย่างที่จะช่วยในการตรวจสอบการลงคะแนนในการเลือกตั้ง” เขากล่าวเสริม
“โดยพื้นฐานแล้ว คุณสามารถคลายความกังวลเกี่ยวกับการปลอมแปลงและสิ่งต่างๆเช่นนั้นได้ด้วย blockchain”
ด้วยบล็อกเชนสาธารณะเช่น Bitcoin ( BTC ) การทำธุรกรรมทุกรายการจะถูกบันทึกใน public ledger ที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้การตรวจสอบมีประสิทธิภาพและโปร่งใสมากกว่าระบบ centralized หรือแบบกระดาษ
แต่แม้ว่าจะดูโปร่งใสและไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่เจ้าหน้าที่จะรู้ได้อย่างไรว่าคะแนนเสียงมาจากประชาชนที่ลงคะแนนเพียงครั้งเดียว “สิ่งที่คุณต้องการคือสิ่งที่เรียกว่าการยืนยันแบบ end-to-end” Hardman อธิบาย ซึ่งเป็นส่วนของการลงทะเบียน”
“คุณต้องรู้ว่าคน ๆ หนึ่งสามารถลงทะเบียนได้เพียงครั้งเดียว และนั่นหมายความว่าเมื่อมีคนมาลงทะเบียน คุณก็จะทำเหมือนกับสิ่งที่คุณทำในกลไกการเลือกตั้งในวันนี้ซึ่งก็คือ – ตรวจสอบใบขับขี่ดูว่าภาพตรงกัน หรือลายเซ็นที่ตรงกันทุกอย่าง”
จากนั้นเทคโนโลยีก็จะช่วยให้แต่ละคนมีการลงคะแนนเสียงเพียงครั้งเดียว “ในแบ็กเอนด์คุณพิสูจน์ได้สำหรับการลงทะเบียนใด ๆ คุณสามารถลงคะแนนได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น”
“ถ้าคุณรู้ว่านาย John จาก 123 Main Street ในเพนซิลเวเนีย มีลายนิ้วมือแบบใด มันก็ยากสำหรับคนอื่นที่จะมาโหวตแทนในนามของเขา” Hardman อธิบาย
อ้างอิง : LINK