Michael Saylor CEO ของ MicroStrategy กล่าวว่าการซื้อ Bitcoin สามารถช่วย Tesla และ บริษัท อื่น ๆ ที่ติดอันดับ Fortune 500 ได้หลายพันล้านดอลลาร์
MicroStrategy บริษัทข่าวกรองทางธุรกิจของ Saylor ตั้งเป้าที่จะเป็นเจ้าของ Bitcoin มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ และเขาแนะนำว่าบริษัทอื่น ๆ ที่มีเงินสดสำรองหลายพันล้านควรทำตามพวกเขา
ในการให้สัมภาษณ์กับ HyperChange Saylor เตือนว่า บริษัทอย่าง Tesla ที่มีเงินสดสำรองหลายพันล้านดอลลาร์ควรแข่งกันซื้อ Bitcoin ซึ่งหากไม่เป็นเช่นนั้น พวกเขาจะสูญเสียพลังในการใช้จ่ายไปครึ่งหนึ่งในอีก 3 ปีข้างหน้า
“ [บริษัท ใหญ่ ๆ ] ในที่สุดก็ต้องการ [Bitcoin] คุณมีพลังทางการเงินมูลค่า 20 พันล้านดอลลาร์ในวันนี้ แต่กำลังสูญเสียกำลังซื้อไป 15% ต่อปี และคุณจะสูญเสียไปครึ่งหนึ่งภายใน 36 เดือนเว้นแต่คุณจะหาทางปกป้องมัน
หากคุณใส่มันลงใน Bitcoin นอกจากจะไม่สูญเสียเงินไปครึ่งหนึ่งแล้ว คุณยังสามารถคาดหวังได้การเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุก ๆ ปี ในอีกสามปีต่อจากนี้ ดังนั้นทำไมไม่ใส่เงิน 1 พันล้านดอลลาร์เข้าไปและทำให้มันจะมีมูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์ใน 3 ปี . หากคุณเก็บแต่เงินไว้ทั้งหมด รับรองว่าคุณจะสูญเสียกำลังซื้อถึง 10,000 ล้านดอลลาร์
หาก Tesla ใส่เงิน 1 พันล้านดอลลาร์ [เป็น Bitcoin] พวกเขาจะมีเงินเป็นสองเท่าภายใน 12 เดือน และหากพวกเขาใส่เงิน 2 พันล้านเหรียญพวกเขาอาจสร้างรายได้ 10 พันล้านดอลล่าร์เลยก็ได้ และใคร ๆ ก็ทำได้ หากคุณเป็นเศรษฐี กองทุนเฮดจ์ฟันด์ แค่คุณใส่เงินใน Bitcoin เพียงเท่านั้น”
Saylor ยังเน้นว่า Bitcoin แตกต่างจากสินทรัพย์อื่น ๆ
“Bitcoin เป็นเครือข่ายที่โดดเด่นและไม่สามารถหยุดยั้งได้… 99% ของนักลงทุนไม่เข้าใจ แต่เมื่อเข้าใจแล้วพวกเขาทุกคนต้องแห่กันเข้ามา
เมื่อคุณซื้อมัน ราคาก็สูงขึ้น มีค่ามากขึ้น มีคนต้องการมากขึ้น มีการนำไปใช้มากขึ้น ราคาก็สูงขึ้น…ดังนั้นยิ่งราคาสูงขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น ซึ่งตรงข้ามกับบริษัทส่วนใหญ่ที่ยิ่งหุ้นขึ้นไปก็ยิ่งเสี่ยง ยิ่งราคาของ Bitcoin สูงขึ้นเท่าใดความเสี่ยงก็จะน้อยลงเท่านั้น”
“ยิ่งคุณเข้าร่วมเร็วเท่าไหร่คุณก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น และเมื่อผู้คนเข้าร่วมมากขึ้นมันก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นและราคาก็สูงขึ้น ถ้าคุณเป็น Tesla คุณก็ต้องอยากเป็นที่หนึ่งเพราะ Apple จะจ่ายเป็นสองเท่า จากนั้น Google ก็จะจ่ายอีกสองเท่าและ Facebook ก็จ่ายเป็นสองเท่าและในที่สุดทุกคนก็ต้องเข้าร่วมเพราะถ้าคุณไม่เข้าร่วม คุณกำลังจะสูญเสียกำลังซื้อของคุณไป 15% ถึง 20% ”
อ้างอิง : LINK