ในรายการ Beartai Live หรือ หนุ่ยทอล์กหนุ่ยโทร ตอนล่าสุด ได้มีการพูดคุยถึงการปรับตัวลงของราคา Bitcoin เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดของปี 2020 ที่ 19,500 ดอลล่าร์
โดยทางคุณหนุ่ยได้ร่วมพูดคุยกับคุณต้ำ หรือ “อาจารย์ พิริยะ สัมพันธารักษ์” Managing Director จาก Chaloke.com ซึ่งอาจารย์ พิริยะ ก็ได้เผยถึง 3 สาเหตุที่ราคา Bitcoin ร่วงเอาไว้ว่า…
ประการแรก คือ มันเป็นราคาที่เป็นเป้าหมายทาง technical indicator พอดี เนื่องจากมีเทรดเดอร์ทั่วโลก รวมถึงกองทุนต่าง ๆ ที่ใช้ technical เดียวกัน เพราะฉะนั้นเมื่อราคาถึงจุด ๆ หนึ่งที่เป็นจุดสำคัญทาง technical จึงมี reaction เกิดขึ้น
ประการที่สอง open interest ในเว็บเทรดฟิวเจอร์ส ที่เมื่อขึ้นไปถึงระดับ 2.5 billion USD แล้วนั้นมักจะมี collection เกิดขึ้นตามมา และเมื่อเกิดมีบัญชีที่เทรดเกินตัวเยอะ ๆ และราคาเหวี่ยงนิดหนึ่ง ก็ทำให้เกิด stop loss จำนวนมาก
ประการที่สาม การกลับมาเปิดถอนอีกครั้งของเว็บเทรด Okex หลังจากปิดการถอนไปนาน เพราะเกิดปัญหากับหนึ่งในผู้ที่ถือ Key เนื่องจากถูกตำรวจของทางการจีนสอบสวน และเมื่อกลับมาเปิดการถอน ผู้ใช้งานจำนวนมากก็เลยรีบถอนเงินออกไปที่อื่น
Bitcoin มีเจ้าหรือไม่
คุณหนุ่ยได้ถามต่อว่า Bitcoin นั้นมีเจ้าหรือไม่ ซึ่งหมายถึงคนที่มีพอร์ทใหญ่ ที่เคลื่อนไหวเพียงนิดเดียวก็ส่งผลกระทบต่อตลาด ซึ่งอาจารย์พิริยะคิดว่า “ทุกอย่างที่มีการซื้อขายในตลาด ก็มีคนตัวใหญ่กว่า และตัวเล็กกว่า”
“ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดธรรมชาติ และไม่ใช่เรื่องที่จะต้องไปมองหาว่ามันเป็นต้นเหตุ และเราควรเลิกโทษเจ้าเสียที เพราะการที่เราเทรดเสียนั้นมันเกิดจากเราที่บริหารความเสี่ยงไม่ดี มองตลาดไม่ออก…..ฺBitcoin นั้นมีคนที่ตัวใหญ่ และการขยับของเค้านั้นสามารถส่งผลกระทบต่อราคาได้ แต่ในมุมมองของผม คนเหล่านี้เค้าไม่ได้มานั่งคอยควบคุมราคา และการปั่นราคาของเจ้ามันก็ถูกควบคุมด้วยกลไกของตลาด”
การร่วงครั้งล่าสุดนี้ถือเป็นการรับน้องหรือไม่
คุณหนุ่ยถามต่อว่า หลังจากที่ราคา BTC ขึ้นไปทำจุดสูงสุดของปี 2020 ที่ 590,000 บาท และร่วงลงมาเหลือ 460,000 บาท ถือเป็นการรับน้องหรือเป็นการคัดกรองนักลงทุนหรือไม่ ซึ่งอาจารย์พิริยะตอบว่า “มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ในทุุกตลาด และไม่มีอะไรที่จะวิ่งไปในทางใดทางหนึ่งได้ตลอด”
“เรามีการปรับลดลงของราคา Bitccoin มานับไม่ถ้วน ทั้งเล็กและใหญ่ เพราะฉะนั้นมันคือเรื่องปกติ แต่เมื่อตลาดมีการขึ้นของราคาแรง ๆ มักจะมีมือใหม่เข้ามา และคิดว่า “มันง่าย” และไม่ระวัง รวมถึงเตือนแล้วไม่ฟัง เนื่องจากซื้อตัวไหนมันก็กำไร ทำให้คนหลงคิดว่าตลาดมันง่าย จึงทำให้คนที่อยู่ในตลาดนี้มานาน เจ็บตัวมาก่อนออกมากล่าวว่าเดี๋ยวก็รู้….ซึ่งใครที่รับการเคลื่อนไหวแบบนี้ไม่ไหว ต้องมาวางแผนบริการความเสี่ยงกันใหม่
“การลดลงของราคา Bitcoin 3000 ดอลล่าร์ ในวันเดียวไม่ใช่เรื่่องใหม่ เนื่องจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ราคาก็ลดลงจากประมาณ 9000 ดอลล่าร์ ลงไปถึง 3500 ดอลล่าร์ หายไป 50% ในวันเดียว และที่อยากจะเตือนคือมันอาจเกิดขึ้นได้อีก เนื่องจากมันไม่ใช่ครั้งแรกที่ราคาร่วงระดับนี้ มันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว 2 – 3 ครั้งในอดีต”
สิ่งที่ระบุไว้ข้างต้นทั้งหมดยังเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคลิปวีดีโอในรายการเท่านั้น หากใครต้องการดูคลิปทั้งหมด สามารถดูได้ทางด้านล่าง :