Michael Saylor CEO ของ MicroStrategy กำลังอธิบายว่าทำไมเขาและบริษัทของเขาถึงซื้อ Bitcoin มูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์
ในการให้สัมภาษณ์ครั้งใหม่กับ Fast Money ของ CNBC Saylor อธิบายว่าทำไมเขาถึงเชื่อว่า Bitcoin นั้นเหนือกว่าทองคำอย่างมาก และปัจจุบันกลายเป็นสินทรัพย์สำรองที่ปลอดภัยที่สุดในโลก
“เรื่องนี้เกิดจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของ monetary supply โดยธนาคารกลาง , cost to capital เพิ่มขึ้นสามเท่าจาก 5% เป็น 15% ในปีที่ผ่านมา….เรามีเงินสด 500 ล้านเหรียญ และรารู้ว่าเราจะสร้างเพิ่มได้อีก 500 ล้านเหรียญ และเราก็รู้ว่าถ้าเราถือเงินสดไว้มันจะลดลง 10% 15% ต่อปีและผมไม่ได้ต้องการเสียมันไปครึ่งหนึ่ง ดังนั้นสิ่งที่คนไม่เข้าใจก็คือ BTC เป็นสินทรัพย์สำรองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกในขณะนี้ และมันได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เหนือกว่าทองคำในทุกด้าน….
ดังนั้นในกรณีนี้ ผู้คนจำนวนมากจึงเข้าใจเรื่องราวสินทรัพย์ของ Bitcoin เพิ่มขึ้น 100% ต่อปีในแต่ละปี ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาไม่มากก็น้อย แต่สิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจก็คือ Bitcoin เป็นเครือข่ายการเงินและในฐานะเครือข่ายการเงินมันสามารถจัดเก็บและ Channeling Energy ได้ตลอดเวลาโดยไม่สูญเสียพลังงาน ดังนั้นเราจึงตื่นเต้นมากเกี่ยวกับแนวคิดนี้และเราเห็นว่ามันเป็นวิธีแก้ปัญหาสำหรับ store of value ไม่ใช่แค่เงินทุน 300 ล้านล้านดอลลาร์ในโลก แต่สำหรับคน 7.5 พันล้านคนบนโลกนี้”
Saylor กล่าวว่าความผันผวนจะลดน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป และนักลงทุนต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจคุณค่าของ BTC อย่างแท้จริง แต่ในระยะยาว เขาคิดว่า Bitcoin จะมีขนาดใหญ่กว่าบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกรวมถึง Apple, Amazon และ Facebook
“ความกังวลดั้งเดิมเกี่ยวกับ Bitcoin คืออาจถูกแฮ็ก อาจมีการคัดลอก มันอาจถูกแบน และเมื่อผ่านไปหนึ่งทศวรรษก็พบว่ามันก็ยังไม่ถูกแฮ็ก ไม่มีใครสามารถคัดลอกได้ และมันจะไม่ถูกแบน แม้ว่าผู้คนจะมองว่ามันมีความผันผวน แต่ก็อาจจะมีความผันผวนในช่วงทศวรรษแรก แต่ในทศวรรษหน้านับจากนี้ ดูเหมือนว่ามันจะไม่ผันผวนขนาดนั้น และมันจะกลายเป็นสินทรัพย์สำรองหลักสำหรับผู้ที่กำลังมองหาวิธีหลีกเลี่ยงภาวะเงินเฟ้อทางการเงินที่มากขึ้น …
ผมคิดว่าเมื่อนักลงทุนเริ่มเข้าใจเรื่องราวของ Bitcoin พวกเขาจะโยกย้ายเงินทุนของพวกเขาไปยังเครือข่าย Bitcoin และนั่นจะทำให้เกิดการยอมรับที่ดี และตามมาด้วยการแข็งค่าของราคา ตามด้วยการเพิ่มมูลค่า ตามด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยี คุณเห็น Square และ PayPal มันอาจจะเปลี่ยนเป็น Apple และ Google ในไม่ช้า นั่นจะกระตุ้นให้เกิดการยอมรับมากขึ้น และนั่นหมายความว่าคุณต้องการเชื่อมโยงบริษัทของคุณเข้ากับเครือข่ายการเงินของ Bitcoin จริงๆ และมันอาจเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
สุดท้ายมันจะใหญ่กว่าหุ้น FAANG (Facebook, Amazon, Apple, Netflix, Google) มันจะใหญ่กว่า Apple, Amazon, Facebook และตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะที่สุดที่จะเข้าร่วมเพราะนักลงทุนอีก 99% ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมเพิ่งพูดไป และด้วยพลังงานทางการเงินมูลค่า 350 พันล้านดอลลาร์ในเครือข่าย Bitcoin หมายความว่าไม่มีใครสามารถหยุดมันได้ในตอนนี้”
อ้างอิง : LINK
