ในอดีตเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงนั้น มักจะนำไปสู่ความแข็งค่าในสินทรัพย์ “safe haven” อื่น ๆ ด้วยการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของโมเมนตัม Bitcoin ( BTC ) และ USD
Bitcoin ต้องรักษาระดับแนวรับ $11,000 เพื่อหลีกเลี่ยงการทดสอบ CME gap ที่ $9,600
เพื่อรักษาโมเมนตัมที่เป็นขาขึ้นเอาไว้ แนวรับจะต้องรักษาพื้นที่ 11,000-11,200 ดอลลาร์นี้เพื่อการขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 12,000 ดอลลาร์ที่จะเกิดขึ้น
โดยกราฟรายสัปดาห์ของ Bitcoin แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของแนวต้าน 12,000 ดอลลาร์ นับตั้งแต่ตลาดหมีเริ่มขึ้น พื้นที่ 12,000 ดอลลาร์ถือเป็นอุปสรรค์ครั้งใหญ่
หากสามารถฝ่าด่าน 12,000 ดอลลาร์ลงได้ ก็อาจส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่สำหรับ Bitcoin โดยจะไปเจอต้านใหญ่แรกที่ระหว่าง 16,500-17,500 ดอลลาร์
ดอลลาร์ที่กำลังอ่อนค่า
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ดัชนีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐถือเป็นศูนย์กลางของการอภิปรายมากมายเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin
ค่อนข้างชัดเจนว่าทั้งสองมีการเคลื่อนไหวในทางตรงกันข้าม ซึ่งทำให้เกิดข้อสรุปว่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเป็นประโยชน์ต่อราคาของ Bitcoin และเป็นเหตุผลหลักที่อยู่เบื้องหลังนักลงทุนสถาบันรายใหญ่ที่เข้ารับมาใน Bitcoin ซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญของ cycle ใหม่ที่กำลังจะมาถึง
แท้จริงแล้วความสัมพันธ์แบบผกผันนั้นค่อนข้างชัดเจน เนื่องจากเศรษฐกิจโลกถูกสร้างขึ้นจากสกุลเงินสำรองของโลกนั่นคือดอลลาร์สหรัฐ
ดังนั้นการอ่อนตัวของเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเร็ว ๆ นี้ จึงส่งผลให้เกิดการปรับตัวขึ้นรอบ ๆ ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และสิ่งนี้จะส่งผลดีต่อโมเมนตัมของ Bitcoin ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยโมเมนตัมนี้มักถูกจัดประเภทว่าเป็น “opting out of the system” โดยผู้เชื่อใน Bitcoin
กราฟ 4-day ของ Bitcoin แสดงความคล้ายคลึงกันกับจุดเริ่มต้นของ cycle ก่อนหน้าในปี 2016 โดยโครงสร้าง sideways ที่ยาวนานกำลังสร้างโมเมนตัม หลังจากนั้นแรงกระตุ้นครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นจนขึ้นไปถึงแนวต้านถัดไป ซึ่ง cycle นี้จะนำตลาดไปสู่ระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่มันจะไม่เกิดขึ้นในคราวเดียว
อ้างอิง : LINK