Goldman Sachs ธนาคารวาณิชธนกิจชื่อดังที่มีมูลค่า 71.4 พันล้านดอลลาร์รายงานค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง และสำหรับ Bitcoin ( BTC ) ซึ่งเพิ่งปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 11,100 ดอลลาร์ อาจเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้น
Bitcoin กำลังเข้าสู่ช่วงสองเดือนสุดท้ายของปี โดยมีความไม่แน่นอนอย่างมาก แต่หากค่าเงินดอลลาร์ยังคงตกต่ำต่อไป มันก็สามารถกระตุ้นโมเมนตัมของ BTC และทองคำในไตรมาสที่ 4 ได้
ทำไม Goldman Sachs ถึงมองว่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าต่อเนื่อง
Zach Pandl หัวหน้าฝ่าย Global FX ,Rates,และ EM Strategy ของ Goldman คาดการณ์ว่าดอลลาร์จะลงไปแตะระดับต่ำสุดระดับเดียวกับปี 2018
ในหมายเหตุถึงลูกค้าที่ CNBC ได้รับ Pandl และทีมนักวิเคราะห์ของเขาได้ระบุถึงปัจจัยสำคัญสองประการ โดยประการแรก Pandl กล่าวว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นนั้น กระแส “Blue Wave หรือ “คลื่นสีน้ำเงิน” ซึ่งเป็นสีที่เป็นสัญลักษณ์ของพรรคเดโมแครต ยังคงเป็นความเสี่ยงที่สำคัญต่อ U.S. Dollar Index (DXY) และประการที่สอง ความคาดหวังเกี่ยวกับวัคซีน COVID-19 ที่ยังไม่ชัดเจน
เมื่อวันที่ 30 กันยายน Stéphane Bancel ซีอีโอของ Moderna บอกกับ FT ว่าวัคซีนจะยังไม่พร้อมจนกว่าจะการเลือกตั้งการผ่านไป
การขาดความชัดเจนในการผลิตและจำหน่ายวัคซีน รวมถึงความเสี่ยงจากการเลือกตั้ง อาจขัดขวางโมเมนตัมของเงินดอลลาร์ โดย Pandl ระบุว่า:
“ในมุมมองของเราการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่เต็มไปด้วยกระแสของ ‘บลูเวฟ’ ของชาวเดโมแครตที่ต้องการเปลี่ยนทิศทางการเมืองของประเทศ และข่าวที่น่ายินดีเกี่ยวกับวัคซีนอาจทำให้ดอลลาร์และดัชนี DXY กลับสู่ระดับต่ำสุดในปี 2018 ได้”
หากค่าเงินดอลลาร์ลดลงก็จะเป็นประโยชน์ต่อ stores of value ทางเลือกอื่น ๆ เช่น Bitcoin และทองคำ เนื่องจากสินทรัพย์ทางเลือกมีราคาเทียบกับดอลลาร์ ดังนั้นการลดลงของ DXY ทำให้ stores of value อื่น ๆ มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ที่ลดลง Pandl ยังตั้งข้อสังเกตว่าการพัฒนาวัคซีนที่อาจเกิดขึ้นสามารถเพิ่มมูลค่าของสินทรัพย์เสี่ยงได้ ด้วยเหตุนี้ หากสถาบันต่างๆมอง Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ก็สามารถเพิ่มความเชื่อมั่นของ BTC ได้ด้วยเช่นกัน
“เพื่อให้แน่ใจถึงความเสี่ยงที่สำคัญ: เราไม่แน่ใจเกี่ยวกับระยะเวลาของการนับคะแนน (โดยเฉพาะสำหรับวุฒิสภา) และปฏิกิริยาของตลาดตราสารทุนที่มีต่อ ‘Blue Wave’ แต่การสำรวจความคิดเห็นในปัจจุบันก็ช่วยลดความเสี่ยงของผลการเลือกตั้งที่ล่าช้า และโอกาสในการพัฒนาวัคซีนในระยะใกล้ ก็อาจเป็นปัจจัยหนุนสำหรับสินทรัพย์เสี่ยงได้”
ขณะที่กราฟรายสัปดาห์และรายเดือนของ Bitcoin ยังคงเป็นบวกอย่างมากด้วยเช่นกัน เนื่องจากปฏิกิริยาของ BTC ตั้งแต่ช่วงแนวรับที่ $10,500 ถึง $10,700 และการฟื้นตัวของ BTC เหนือแนวต้าน 11,300 ดอลลาร์เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เนื่องจากเป็นการฟื้นตัวจากเหตุการณ์เชิงลบในเดือนตุลาคมเช่น การฟ้องร้องของ CFTC กับ BitMEX ไปจนถึงการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ที่ต้องสะดุด
อ้างอิง : LINK
