การปรับตัวขึ้นของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเริ่มต้นในวันจันทร์ยังคงดำเนินต่อไป ส่งผลให้ U.S. dollar index (DXY) แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน และส่งผลกดดันต่อทั้งราคาทองคำและ Bitcoin
U.S. dollar index (DXY) ซึ่ง “ออกแบบดูแลและเผยแพร่โดย ICE ( Intercontinental Exchange, Inc. )” – คือ “ดัชนี (หรือหน่วยวัด) ของมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับตะกร้าของสกุลเงินต่างประเทศ” ได้แก่ EUR, GBP, JPY, CAD, SEK และ CHF
โดย DXY เริ่มต้นการฟื้นตัวล่าสุดในวันที่ 21 กันยายน และการเพิ่มขึ้นนี้ยังดำเนินต่อไปซึ่งช่วยให้ DXY ไปถึง 94.21 ซึ่งเป็นมูลค่าสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม:
แม้ว่านักวิเคราะห์บางรายจะมองว่าการเคลื่อนไหวในขาขึ้นของ DXY เป็นเพียงเรื่องชั่วคราวจากความอ่อนแอที่เราได้เห็นมาตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม (เมื่ออยู่ที่ 102.82) เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจของการระบาดของ COVID -19 ต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แต่ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นนั้นโดยทั่วไปมักถูกมองว่าเป็นขาลงสำหรับทองคำ ซึ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบสองเดือนในวันนี้ และ Bitcoin (หรือที่เรียกว่า “ทองคำดิจิทัล”) ซึ่งต่ำกว่าระดับ 10,500 ดอลลาร์
ปัจจัยมหภาคอื่น ๆ ที่มีผลต่อราคาของ Bitcoin ได้แก่ (1) ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ COVID-19 ครั้งที่สอง และ (2) ความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของจำนวนผู้ป่วย COVID-19 รายวันในยุโรป และส่วนอื่น ๆ ของโลก
ทั้งนี้เมื่อคืนที่ผ่านมา นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้มีการแถลงการณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐในปัจจุบันว่า ในขณะนี้เศรษฐกิจของสหรัฐนั้นกำลังฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมไปถึงเน้นย้ำความจำเป็นในการใช้นโยบายทั้งด้านการเงินและการคลังเพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐเกิดความเสียหายในระยะยาวจากผลกระทบ covid-19
แม้ว่าแนวโน้มระยะสั้นของ Bitcoin อาจดูน่ากลัว (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการปรับตัวขึ้นของดอลลาร์สหรัฐยังคงดำเนินต่อไป) จนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือนพฤศจิกายนเป็นอย่างน้อย (และอาจเกินกว่านั้นขึ้นอยู่กับว่าสถานการณ์ COVID-19 ในสหรัฐฯพัฒนาไปอย่างไร) นักวิเคราะห์ crypto ส่วนใหญ่ , นักลงทุน และนักเทรดดูเหมือนจะยังมองเป็นขาขึ้นของ Bitcoin ในระยะยาว
อ้างอิง : LINK
