ในรายการทีวี Keizer Report ล่าสุดของ Max Keizer เมื่อวันที่ 22 กันยายน เค้าได้เตือนว่าธนาคารกลางต้องรับผิดชอบต่อหนี้ทั่วโลกที่กำลังเกิดขึ้นมากมาย
Keizer อ้างถึงความคิดเห็นจากธนาคารกลางของสิงคโปร์คือ Monetary Authority of Singapore (MAS) ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้เตือนว่าวิธีการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสงครามโลกครั้งที่สองจะใช้ไม่ได้ในปี 2020
ธนาคารกลางทั่วโลกได้เข้าแทรกแซงในตลาดซื้อหุ้นและทรัพย์สินอื่น ๆ เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจของ Covid-19 และการ lockdown ทำให้เกิดการถกเถียงอย่างมาก
“ประการแรก เห็นได้ชัดว่าคุณไม่สามารถเพิ่มหนี้ได้เรื่อย ๆ” Tharman Shanmugaratnam ประธาน MAS กล่าว
“แต่ผมไม่เชื่อว่าระดับหนี้ใหม่ที่สูงขึ้นซึ่งหลายประเทศกำลังดำเนินไปนั้นจะยั่งยืนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากเกี่ยวกับการเติบโตและความเสมอภาคในสังคมของพวกเค้า”
หนี้ระดับชาติของสหรัฐฯเพียงประเทศเดียวก็เพิ่มขึ้นเป็น 26.7 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ โดยเพิ่มขึ้น 4 ล้านล้านดอลลาร์ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2019
“โลกไม่มีความสามารถจะแบกรับภาระหนี้ของเศรษฐกิจโลกได้อีกต่อไป เรามาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว” Keizer สรุป
และเกี่ยวกับผลที่ตามมาของประเทศที่เป็นหนี้มากขึ้น เขากล่าวว่าผู้บริโภคทั่วไปจะแบกรับภาระจากนี้ไป:
“ตอนนี้เงินทุกดอลลาร์ที่ธนาคารกลางพิมพ์ออกมาจะเข้าสู่อัตราเงินเฟ้อของ consumer price index โดยตรง และนั่นจะทำให้เกิดความไม่สงบในสังคมอย่างไม่น่าเชื่อ [.]”
ในช่วงทศวรรษที่ 1940 ประเทศที่ก่อหนี้จากการสู้รบ สามารถทำให้พวกเขาขยายตัวออกไปได้ แต่คราวนี้ Herbert กล่าวว่ามีประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่จำนวนมากที่ค่าจ้างจะไม่ขึ้นตามราคาที่สูงขึ้น ซึ่งนำไปสู่ช่องว่างระหว่างชนชั้นสูงกับสังคมอื่น ๆ ที่ Keizer เรียกว่า “neo-feudalism”
Keizer ได้ให้การสนับสนุน Bitcoin ( BTC ) มาเป็นเวลานาน เพื่อเป็นเส้นทางหลบหนีจากผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อ
“Bitcoin ก็เหมือนกับทองคำที่มีความสัมพันธ์ผกผันกับ USD – *ไม่ใช่ * ตลาดหุ้น” Keizer ชี้ให้เห็นเมื่อวันที่ 22 ก.ย.
Keizer และ Herbert ตั้งข้อสังเกตว่าการตัดสินใจของ MicroStrategy ที่จะนำเงินสดสำรองกว่า 400 ล้านดอลลาร์เข้าสู่ Bitcoin เป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดี
อ้างอิง : LINK