เจ้าหน้าที่รัฐบาลในอาร์เจนตินาปฏิเสธที่จะเจรจากับกลุ่ม Ransomware ที่ทำให้พวกเขาต้องปิดด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้งหมดในช่วงสั้น ๆ ในวันที่ 27 สิงหาคม
ตามที่รายงานวันที่ 6 กันยายนบน, กลุ่มของ NetWalker ransomware แฮ็กเกอร์ได้โจมตีหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของอาร์เจนตินา, Dirección Nacional de Migraciones เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมและเริ่มเรียกร้องค่าไถ่เป็นจำนวน 2$ ล้านเพื่อการคืนค่าเซิร์ฟเวอร์ของตน
“ไฟล์ของคุณถูกเข้ารหัส” หน้าการชำระเงินใน Tor ที่ส่งไปยังหน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง “วิธีเดียวที่จะถอดรหัสไฟล์ของคุณคือ [sic] ซื้อโปรแกรมถอดรหัส”
หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ แฮ็กเกอร์ได้เพิ่มค่าไถ่เป็น 355.8718 Bitcoin ( BTC ) – ประมาณ 4 ล้านดอลลาร์ในเวลานั้น
สำนักข่าว Infobae ของอาร์เจนตินารายงานว่า การโจมตีดังกล่าวให้ต้องหยุดการผ่านแดนทั้งหมด ทั้งขาเข้าและขาออกประเทศเป็นเวลา 4 ชั่วโมง ในระหว่างการปิดระบบ เจ้าหน้าที่ต้องย้ายไปใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ตรวจคนเข้าเมืองในสำนักงานภูมิภาคและใช้จุดตรวจแบบออฟไลน์ โดยมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐกล่าวว่า “พวกเขาจะไม่เจรจากับแฮ็กเกอร์”
สถานการณ์ในอาร์เจนตินาครั้งนี้ถือเป็นตัวอย่างที่หาได้ยากของการโจมตีทางอินเทอร์เน็ตที่ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานรัฐบาลของประเทศ
Brett Callow นักวิเคราะห์ภัยคุกคามและผู้เชี่ยวชาญด้าน Ransomware จากEmsisoft malware lab กล่าวว่า “ในกรณีของหน่วยงานรัฐบาล ปัญหานี้เป็นปัญหาอย่างยิ่งเนื่องจากข้อมูลมักมีความอ่อนไหวและในบางกรณีอาจแสดงถึงความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติด้วย” Callow กล่าว “การโจมตีแรนซัมแวร์มากกว่า 1 ใน 10 เกี่ยวข้องกับการขโมยข้อมูลและรายชื่อกลุ่มที่ขโมยเป็นประจำมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นจึงมีโอกาสมากที่เหตุการณ์เช่นนี้จะกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นเรื่อย ๆ”
อ้างอิง : LINK