มีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯได้ยึด bitcoin มูลค่า 2 ล้านดอลลาร์ (60 ล้านบาท) จากกระเป๋าเงินดิจิตอล 300 ใบ ที่เกี่ยวข้องกับแคมเปญระดมทุนจากกลุ่มก่อการร้ายที่ต้องการรับ crypto เพื่อระดมทุนในการโจมตี
ตามรายงานของนิวยอร์กไทม์ส ฝ่ายบริหารของทรัมป์ได้ยึดกระเป๋าที่เชื่อมโยงกับองค์กรก่อการร้ายสามองค์กร ได้แก่ al-Qassam Brigades – Hamas’s military wing – the Islamic State of Iraq and the Levant (ISIS)
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐกล่าวว่า นี่เป็น “การยึดสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของรัฐบาลในส่วนที่เกี่ยวกับการก่อการร้าย” การเคลื่อนไหวดังกล่าวบ่งชี้ว่ารัฐบาลสามารถระบุและแทรกซึมองค์กรผู้ก่อการร้ายหรือองค์กรอาชญากรรมได้ โดยมีรายงานว่าเงินดังกล่าวถูกยึดจากกระเป๋าเงินดิจิตอลที่ “ถือครองโดยสถาบันที่คล้ายกับธนาคาร”
รัฐบาลสหรัฐฯยังได้ขึ้นบัญชีดำกระเป๋าเงินคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) ที่มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้ผู้ก่อการร้ายถอนเงินได้ยากขึ้นเนื่องจากแพลตฟอร์มการซื้อขายแบบ centralized จะบล็อกการทำธุรกรรมจากที่อยู่เหล่านี้
Michael Sherwin รักษาการอัยการสหรัฐประจำ District of Columbia กล่าวว่า:
คดีนี้เป็นประวัติศาสตร์และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนด้วยเหตุผลหลายประการ เรามีหน่วยงานที่แตกต่างกัน 3 แห่งของรัฐบาลเพื่อป้องกันการจัดหาเงินทุนไปยังองค์กรก่อการร้ายที่อันตรายเหล่านี้
การดำเนินการดังกล่าวเป็นความพยายามร่วมกันของหลายหน่วยงานซึ่งรวมถึง FBI, ICE, Internal Revenue Service และแผนกความมั่นคงแห่งชาติของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมีการดำเนินการเพื่อแทรกซึมเข้าไปในแคมเปญหาทุนขององค์กรก่อการร้าย
องค์กรเหล่านี้มีการระดมทุนผ่านทางเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียหลายแห่ง เนื่องจากพวกเขาใช้ cryptocurrencies ที่ใช้ blockchain แต่ไม่ได้ดำเนินการเพื่อปกปิดตัวตนของพวกเขา
เจ้าหน้าที่กล่าวเพิ่มว่า รัฐบาลได้พัฒนาเครื่องมือและเทคนิคในการระบุผู้ที่อยู่เบื้องหลังการทำธุรกรรมบนบล็อกเชนโดยใช้นามแฝงของ bitcoin ซึ่งในการดำเนินการนั้นรัฐบาลได้เข้าควบคุมเว็บไซต์ที่ใช้ในการเรี่ยไรเงินบริจาค bitcoin เป็นเวลา 30 วัน รวมถึงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีที่บริจาคเงิน และทำการสืบสวนว่าใครเป็นผู้บริจาคต่อไป
อ้างอิง : LINK