Forbes นิตยสารธุรกิจชื่อดัง ได้เปิดเผยถึง 3 ปัจจัยที่จะทำให้ “หยวนดิจิตอล” (DCEP) ก้าวขึ้นมาแข่งขันกับสกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ
ท่ามกลางคำถามและการเก็งกำไรเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลางของจีน ที่เรียกว่า DCEP นั้น สิ่งหนึ่งที่ยังคงชัดเจนก็คือ : จีนกำลังดำเนินงานที่เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิตอล เพื่อแทนที่การใช้เงินสดด้วยเงินสดแบบดิจิตอลที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ และเพื่อให้เงินหยวนสามารถก้าวไปสู่ระดับสากลและอาจขึ้นมาท้าทายสถานะของ USD ในฐานะสกุลเงินสำรองชั้นนำของโลก
และนี่คือปัจจัยที่จะทำให้เงินหยวนในแบบสกุลเงินดิจิทัลอาจได้รับการยอมรับในระยะยาวและทำให้จีนสามารถท้าทายดอลลาร์ได้มากขึ้น
# 1 หยวนดิจิทัลจะช่วยให้จีนสามารถทำงานร่วมกันระหว่างสกุลเงินที่แตกต่างกันซึ่ง USD อาจจะถูกลดความสำคัญลง
ตัวอย่างเช่น ธนาคารกลางที่ไม่ได้จัดตั้งวงเงินสำหรับธุรกรรม Swap (Swap lines) กับ Federal Reserve สำหรับ USD ในช่วงวิกฤต COVID นี้ อาจเห็นความต้องการตราสารหนี้ USD ในแต่ละตลาดของพวกเขามีมูลค่าของ USD เพิ่มขึ้นในระยะสั้น แต่อาจส่งผลในระยะยาวต่อลูกหนี้ที่ยืมเงินมาจากสถาบันการเงินของสหรัฐ (dollar-denominated debt) ในขณะที่การนำมาตรฐานเทคโนโลยีของจีนและความนิยมของการชำระเงินผ่านมือถือ เช่น M-Pesa และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ AliPay ในแอฟริกา จะช่วยเพิ่มมูลค่าในการยอมรับของเงินหยวนในบริบทระหว่างประเทศ
ธนาคารกลางหลายแห่งในแอฟริกากำลังพยายามพิสูจน์ความน่าเชื่อถือ หลังจากหลายปีที่ต้องเจอกับภาวะเงินเฟ้อและค่าเงินที่ลดลง ผู้ว่าการธนาคารกลางของไนจีเรียกำลังขอร้องประชาชนในไนจีเรียให้หลีกเลี่ยงการซื้อขายสกุลเงินในตลาดมืดหลังจากการขาดแคลนดอลลาร์สหรัฐและการล่มสลายของสกุลเงินไนราภายในประเทศ
สกุลเงินดิจิทัลของจีน ยังสามารถทำงานร่วมกันกับพันธมิตรอื่น ๆ ในโครงการเส้นทางสายไหม (Belt and Road) ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงมากกว่า 60 ประเทศ นับจากเอเชียผ่านไปยังแอฟริกาและยุโรป ที่อาจเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขา
# 2) ประเทศจีนอยู่ในการต่อสู้ทางเทคโนโลยีเพื่อกำหนดมาตรฐานเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่
เรื่องนี้ถือเป็นจุดสนใจหลักของรัฐบาลจีนเช่นกัน เห็นได้จากจำนวนสิทธิบัตรและการควบคุมเทคโนโลยี 5G โดย Huawei ซึ่งหากใครก็ตามที่ได้เป็นผู้กำหนดมาตรฐานของเทคโนโลยีใหม่ จะได้เป็นตัวแทนในการกำหนดสิ่งที่จะเป็นไปในอนาคต ดังนั้น สกุลเงินดิจิทัลซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยสกุลเงินของรัฐบาล และกำลังเป็นสิ่งที่องค์กรเอกชนและรัฐบาลทั่วโลกให้ความสนใจและอาจมีการกำหนดเป็นมาตรฐานของตัวเอง ทำให้จีนต้องกำหนดมาตรฐานและวิธีการทำงานของ digital value สำหรับคนส่วนใหญ่บนโลก ถ้าหากมันจะเกิดขึ้น
# 3)การใช้ระบบดิจิตัลและ decentralization ช่วยลดจุดอ่อนในเรื่องระหว่างประเทศของจีน
ประเทศจีนนำเสนอหยวนดิจิทัลเพื่อการยอมรับของต่างชาติที่มากขึ้นกว่าเงินหยวนปกติที่ผูกติดอยู่กับรัฐบาลจีน เพื่อทำให้ชาวต่างชาติที่ไม่ไว้วางใจรัฐบาลจีนแต่อาจมีแนวโน้มที่จะความไว้วางใจ บริษัทจากจีนเช่น ByteDance (ผู้เป็นเจ้าของ TikTok) หรือ อาลีบาบา
ดูได้จากการที่รัฐบาลจีนปฏิบัติตามหลักการ “หนึ่งประเทศ , สองระบบ” เพื่อให้ชาวฮ่องกงได้บริหารฮ่องกง และให้ชาวมาเก๊าได้บริหารมาเก๊า รวมถึงการปฏิรูปกฎระเบียบทางการเงินบางส่วนเพื่อให้เข้าถึงทางการเงินได้มากขึ้นสำหรับองค์กรของรัฐในระบบการเงินอเมริกันและที่อื่น ๆ
จีนจะใช้หยวนดิจิตอลเป็นเครื่องมือสำคัญในการแสวงหาอำนาจ และเพื่อลดการครอบงำทางเศรษฐกิจที่สำคัญของอเมริกัน เพื่อสร้างกฎของตัวเองผ่านมาตรฐานของเทคโนโลยีใหม่ ๆ
สิ่งนี้ถือเป็นแนวโน้มที่น่าสังเกตอย่างยิ่ง และเป็นอีกสิ่งที่ตอกย้ำว่าการแปลงสกุลเงินให้เป็นระบบดิจิทัลนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
อ้างอิง : LINK