Bitcoin Halving เกิดขึ้นพร้อมกับฉากหลังของการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ซึ่งอาจเป็นการท้าทายการครอบงำของเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งหยวนดิจิทัลและ Libra
Bitcoin ถูกมองว่าเป็นทองคำดิจิตอลแบบ decentralised และเทคโนโลยี blockchain ที่คนอื่นมองว่าเป็นหนึ่งใน scams ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
สร้างขึ้นในปี 2008 โดยบุคคลหรือกลุ่มคนภายใต้นามแฝง Satoshi Nakamoto ในฐานะของระบบ decentralised electronic cash system แบบเพียร์ – ทู – เพียร์ โดยในปี 2009 จะมีรางวัลบล็อคอยู่ที่ 50 bitcoins ต่อบล็อกสำหรับนักขุด
หลังจากขุดครบ 210,000 บล็อกทุก ๆ 4 ปี รางวัลบล็อกจะลดลงครึ่งหนึ่งและจะลดลงเรื่อย ๆ จนกว่ารางวัลจะกลายเป็นศูนย์ซึ่งจะอยู่ใกล้กับปีค.ศ. 2140 ตาม bitcoinblockhalf.com
Halving ครั้งที่ 3 เกิดขึ้นในช่วงเช้าวันอังคารตามเวลาประเทศไทย โดยลดรางวัลต่อบล็อกลงจาก 12.5 BTC เป็น 6.25 BTC
การ Halving ครั้งแรกเริ่มต้นขึ้นเมื่อราคา BTC อยู่ที่ $2.01 ต่อ bitcoin ในปี 2012 โดยลดลงเหลือ 25 bitcoins ต่อบล็อก และครั้งที่สองเริ่มขึ้นในปี 2016 เมื่อ Bitcoin มีมูลค่า $664.44 โดยลดลงเหลือ 12.5 bitcoins
การเก็งกำไรในช่วง Halving
ถึงแม้ว่าจะมีความคาดหวังมากมายเกี่ยวกับแนวโน้มราคาของ bitcoin แต่ผลกระทบด้านราคาจาก Halving นั้นอาจไม่เกิดขึ้นทันที โดยทางด้านคุณ Piriya Sambandaraksa กรรมการผู้จัดการจาก ChalokeDotCom กล่าวว่า
Halvingไม่ส่งผลกระทบต่อราคาของ bitcoin แต่จะกระทบต่อ fundamentals เช่น circulation ของสกุลเงินดิจิตอลที่จะลดลง โดยคุณ Piriya กล่าวว่า “สิ่งนี้จะส่งผลต่อปฏิกิริยาของนักลงทุนต่อความต้องการของ bitcoin”
“นักลงทุนหลายคนจะเข้ามาเก็งกำไร bitcoin ก่อนที่จะเกิดการ Halving โดยจะมีหน้าใหม่และผู้ที่ไม่ทราบเกี่ยวกับ cryptocurrency บางคนที่ซื้อเพราะคาดหวังว่าราคาจะสูงขึ้น ในขณะที่คนอื่นๆ จะเลือกซื้อตอนมีข่าวลือและจะขายหลังจากhalving”
“ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือความต้องการ bitcoin ไม่ได้เพิ่มขึ้นจากการ halving แต่เป็นปัจจัยอื่น ๆ”
จากสถิติก่อนหน้านี้ ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง stock-to-flow ความต้องการจะเพิ่มขึ้น คุณ Piriya กล่าวว่าอาจมีการพูดถึงความต้องการ bitcoin ที่เป็นสินทรัพย์เพื่อป้องกันความเสี่ยง
แม้ว่า supply ของ bitcoin จะลดลงในปีนี้ แต่ความต้องการในแบบปี 2017 ยังขาดหายไป Sanjay Popli ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Cryptomind กล่าว
“Halving ได้สร้าง FOMO ขึ้นอย่างมาก [กลัวตกรถ] สำหรับผู้มาใหม่ แต่เราไม่ได้เห็นปริมาณที่แท้จริงเลย ตลาดยังอยู่ในช่วงรวบรวมกำลัง เนื่องจากนักลงทุนสถาบันจำนวนมากยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับสินทรัพย์ประเภทนี้ ในขณะนี้” คุณ Sanjay กล่าว
หยวนดิจิตอล
การมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับ bitcoin นั้นมีศูนย์กลางอยู่ที่ความมีจำกัดและ stored value แต่มันยังต้องใช้เวลาในการสร้างชื่อเสียงให้กับอาณาจักรดิจิตอล
“ไม่ว่า Bitcoin จะเป็นตัวแทนของทองคำจริงหรือไม่ยังเป็นเรื่องยากที่จะพูดว่าเนื่องจากคนจำนวนมากยังไม่ยอมรับมัน และมันยังไม่ได้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายเช่นการทำธุรกรรมของ Promptpay และจะต้องมีระบบที่ดีสำหรับผู้ใช้ Bitcoin อย่างกว้างขวาง” คุณ ปริญญา หอมเอนก ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอซิส โปรเฟสชั่นนัล เซ็นเตอร์ จำกัด
เนื่องจากความคลั่งไหล้ของ bitcoin ได้ลดลงจากเมื่อสามปีที่แล้ว แต่สกุลเงินดิจิทัลที่อยู่ในความสนใจในปัจจุบันตอนนี้คือ “หยวนดิจิตอล”
เช่นเดียวกับสกุลเงินดิจิตอล Libra ที่เสนอโดย Facebook และ cryptocurrencies อื่น ๆ เช่น bitcoin หยวนดิจิตอล หรือ DCEP (Digital Currency Electronic Payment) สกุลเงินดิจิทัลที่มีการจะถูกขับเคลื่อนบางส่วนโดยเทคโนโลยี blockchain และกระเป๋าเงินดิจิตอล
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้มันแตกต่างคือการออกแบบสกุลเงินดิจิทัลที่ทำให้ดูเหมือนว่าปักกิ่งมีการควบคุมกระแสเงินอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ทำให้หน่วยงานของจีนสามารถควบคุมเศรษฐกิจของตนได้ที่แม้แต่ธนาคารกลางส่วนใหญ่ก็ยังทำไม่ได้
“นี่ควรเป็นการพัฒนาที่มีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดว่า ดิจิตอลหยวนนั้นมีการใช้กันอย่างแพร่หลายและเป็นที่ยอมรับในการใช้งานในชีวิตประจำวันทั้งในและนอกประเทศจีนหรือไม่” นายปริญญากล่าว
หยวนดิจิทัลอาจมีผลกระทบในการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ทางการเงินทั่วโลกที่ถูกครอบงำโดยดอลลาร์มาเป็นเวลานาน
“ผมคิดว่าเป้าหมายแรกคือเพิ่มการไหลเวียนของเงินหยวนในระดับโลก” คุณ Sanjay กล่าว “ผมจะบอกว่ามันจะไม่สั่นสะเทือนเงินดอลลาร์ แต่เรากำลังจะเห็นสงครามประเภทต่าง ๆ ด้วย [ดิจิตอลหยวน] ซึ่งจีนสามารถเสนอทางเลือกนี้ให้กับประเทศต่าง ๆ ที่ถูกคว่ำบาตรโดยสหรัฐฯ”
สำหรับใครที่สนใจการวิเคราะห์เรื่อง Halving สามารถดูคลิปที่เรา Live สดเมื่อคืนนี้ได้ที่ด้านล่าง
อ้างอิง : LINK