สก็อต เบสเซนต์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธว่า ท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่สนับสนุนคริปโตและ Stablecoin อย่างเปิดเผย จะช่วย “ตอกย้ำความเป็นผู้นำของดอลลาร์สหรัฐฯ” บนเวทีโลก
“Stablecoin จะเสริมพลังให้ดอลลาร์สหรัฐฯ ครองโลกได้ต่อไป เพราะ Stablecoin มีแนวโน้มจะกลายเป็นผู้ซื้อพันธบัตรรัฐบาลรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่ง” เบสเซนต์กล่าวผ่านการสัมภาษณ์บนแพลตฟอร์ม X (เดิมคือ Twitter)
“มีความเป็นไปได้สูงมากที่คริปโตจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ ‘ล็อกอิน’ ให้ดอลลาร์ยังเป็นสกุลหลักของโลกต่อไป”
คำกล่าวนี้มีขึ้นหลังวุฒิสภาสหรัฐฯ เพิ่งผ่านร่างกฎหมาย Stablecoin ที่เป็นหมุดหมายสำคัญด้านกฎระเบียบในวงการคริปโต ซึ่งขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรว่าจะใช้ฉบับเดียวกับวุฒิสภาหรือยื่นร่างใหม่ของตัวเอง ซึ่งคณะกรรมาธิการการเงินของสภาได้อนุมัติไปตั้งแต่เดือนเมษายน
ไม่ว่าจะเป็นฉบับใดก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์แสดงความตั้งใจชัดเจนว่า เขา “ต้องการให้มีกฎหมาย Stablecoin อยู่บนโต๊ะเพื่อเซ็นรับรองภายในเดือนสิงหาคมนี้”
ตลาด Stablecoin กำลังโตแบบก้าวกระโดด
ด้วยบรรยากาศทางกฎหมายที่เริ่มเป็นมิตรยิ่งขึ้น สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ เช่น JPMorgan Chase และ Bank of America ต่างแสดงความสนใจเข้าร่วมในตลาด Stablecoin ซึ่งหลายฝ่าย—including Bessent—มองว่าจะเติบโตแตะ “ระดับล้านล้านดอลลาร์”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Bessent ประเมินว่า ตลาด Stablecoin ที่อิงกับดอลลาร์สหรัฐฯ อาจมีมูลค่าทะลุ 2 ล้านล้านดอลลาร์ภายใน 3 ปี จากปัจจุบันที่มีมูลค่ารวมราว $240,000 ล้าน (ตามข้อมูลจาก The Block Data Dashboard)
ผู้นำตลาด Stablecoin ขณะนี้คือ USDT ของ Tether ซึ่งมีฐานการดำเนินงานอยู่ในเอลซัลวาดอร์
วิจารณ์รัฐบาลไบเดนว่า “พยายามทำให้คริปโตสูญพันธุ์”
ในการสัมภาษณ์เดียวกัน Bessent ยังกล่าวโจมตีรัฐบาลชุดก่อนของประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยบอกว่า
“คำว่า ‘พยายามควบคุม’ ยังเบาไป ผมว่า ‘พยายามทำให้คริปโตสูญพันธุ์’ จะตรงกว่ามาก นี่คือหนึ่งในปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก แต่สหรัฐฯ ภายใต้ไบเดนกลับเลือกเพิกเฉย”
หลายคนในวงการคริปโตเชื่อว่ารัฐบาลไบเดนมีแนวทางที่ขัดแย้งกับนวัตกรรมในวงการบล็อกเชนและคริปโต ในขณะที่ฝ่ายทรัมป์กลับแต่งตั้งบุคลากรที่มองเห็นโอกาสและศักยภาพในเทคโนโลยีนี้อย่างชัดเจน
เบสเซนต์ถือเป็นหนึ่งในคนสนิทของทรัมป์ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันนโยบายคริปโต และกำลังได้รับความสนใจจากผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดที่ต้องการความชัดเจนทางกฎหมาย
อ้างอิง : theblock.co
ภาพ thehill.com