เอลซัลวาดอร์ กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการบรรลุข้อตกลงมูลค่า 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ โดยจะต้องยุติหรือขายกระเป๋าสตางค์ดิจิทัล Chivo และทำให้การยอมรับ Bitcoin เป็นเรื่องสมัครใจในภาคเอกชน และให้จ่ายภาษีเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น
สเตซีย์ เฮอร์เบิร์ต ผู้อำนวยการสำนักงาน Bitcoin ในเอลซัลวาดอร์ได้โพสต์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า กระเป๋าเงิน Chivo ที่ออกโดยรัฐบาล ซึ่งเปิดตัวในปี 2021 เพื่อขยายการใช้งาน Bitcoin ไปทั่วประเทศ จะถูก “ขายทิ้งหรือยุติการใช้งาน” ตามข้อตกลง โดยกระเป๋าเงิน Bitcoin อื่นๆ ที่ดำเนินการโดยบริษัทเอกชนจะ “ยังคงให้บริการในเอลซัลวาดอร์ต่อไป” เฮอร์เบิร์ตกล่าว
IMF ระบุเมื่อวันพุธว่า ภายใต้ข้อตกลงนี้ เอลซัลวาดอร์จะต้องให้ภาคเอกชนยอมรับ Bitcoin ด้วยความสมัครใจ และภาษีจะจ่ายเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น (ไม่ใช่ Bitcoin)
“สำหรับภาครัฐ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin และธุรกรรมและการซื้อ Bitcoin จะถูกจำกัด” เอกสารดังกล่าวระบุโดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม เฮอร์เบิร์ตเขียนในโพสต์ของเธอว่า เอลซัลวาดอร์จะยังคงเพิ่ม Bitcoin เข้าในสำรองของตนต่อไป หรืออาจจะเพิ่มในอัตราที่ “เพิ่มขึ้น” ก็ได้ โดยปัจจุบันประเทศมีการซื้อ Bitcoin วันละหนึ่งเหรียญ และในขณะนี้ เอลซัลวาดอร์ถือ Bitcoin อยู่ 5,968.77 เหรียญ มูลค่าเกือบ 596 ล้านดอลล่าร์ โดยเฮอร์เบิร์ตกล่าวว่าโครงการที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin จำนวนมากของเอลซัลวาดอร์ รวมถึงการพัฒนาตลาดทุน Bitcoin และการเสนอโปรแกรมการศึกษา Bitcoin จะยังคงดำเนินการต่อไป รวมถึงสถานะของเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายของสกุลเงินดิจิทัลจะไม่ได้รับผลกระทบเช่นกัน
ชาวเอลซัลวาดอร์ได้รับ Bitcoin มูลค่า 30 ดอลลาร์เพื่อสมัครใช้งาน Chivo แต่การนำไปใช้งานทั่วประเทศก็ไม่ได้ผลจริง ๆ โดยจากข้อมูลของสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติ พบว่ามีผู้รับเงินมากกว่า 60% ยังไม่ได้ทำธุรกรรมใด ๆ ภายในกลางปี 2022 จากการสำรวจของมหาวิทยาลัยอเมริกากลางในเดือนมกราคมพบว่าชาวเอลซัลวาดอร์ที่สำรวจ 88% ไม่เคยใช้ Bitcoin ในปี 2023
อ้างอิง : coindesk.com