เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม Binance เปิดเผยความร่วมมือกับ Amazon Web Services (AWS) เพื่อใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ของ Amazon ในการปรับปรุงกระบวนการยืนยัน Know Your Customer (KYC) และจัดการคำขอรับบริการบนแพลตฟอร์ม Binance
ตามประกาศระบุว่า ระบบ KYC ใหม่จะกรอกข้อมูลผู้ใช้โดยอัตโนมัติ , ตรวจสอบหลักฐานที่อยู่ , และทำให้การคัดกรองกับการตรวจสอบของ World-Check มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Binance อ้างว่าการผสานรวม AI ใหม่นี้ทำให้อัตราการจดจำข้อมูลผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็น 95% , ลดต้นทุนสำหรับ optical character recognition ลง 80% , เพิ่มอัตราการอนุมัติ proof-of-address ทั่วทั้ง 107 ประเทศลง 6% , และลดเวลาที่ใช้ในการคัดกรองกับฐานข้อมูล KYC ของ World-Check ลง 30%
Rohit Wad หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของ Binance แสดงความเห็นว่า Binance จะขยายการใช้งานบริการเว็บของ Amazon ในอนาคตด้วย โดยกล่าวว่า “เราวางแผนที่จะขยายการใช้งานเทคโนโลยี AI และบริการคลาวด์ของ AWS ในหลายโดเมน รวมถึงการบริการลูกค้า การปฏิบัติตามข้อกำหนด และการจัดการความเสี่ยง”
Changpeng Zhao ผู้ก่อตั้ง Binance เชื่อว่า จุดยืนของหน่วยงานกำกับดูแลต่อสกุลเงินดิจิทัลกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา
นาย Zhao ซึ่งก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Binance เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กล่าวว่า กฎระเบียบของสกุลเงินดิจิทัลกำลัง “เคลื่อนไปในทิศทางที่เป็นบวกมาก” โดยเขายกตัวอย่างความคิดเห็นล่าสุดของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่การประชุม Bitcoin ประจำปี 2024 ที่เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดมุมมองในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของสกุลเงินดิจิทัล
นอกจากนี้ Zhao ยังสังเกตเห็นการสนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้นจากทั้งสองพรรคในหมู่สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดมุมมองในแง่ดี
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ binance.com