เอกสารล่าสุดจาก Bitcoin Policy Institute ชื่อว่า The Case for Bitcoin as a Reserve Asset ได้เสนอแนะว่าธนาคารกลางควรนำ Bitcoin มาใช้เป็นสินทรัพย์สำรองเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น , ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ , ความเสี่ยงด้านการควบคุมเงินทุน , การผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาล , การล้มละลายของธนาคาร และมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนด
นักเศรษฐศาสตร์ Matthew Ferranti ซึ่งเป็นผู้เขียนบทความได้กล่าวถึงกรณีที่ Bitcoin เป็น “ตัวกระจายพอร์ตโฟลิโอที่มีประสิทธิผล” เนื่องมาจากความสัมพันธ์ที่อ่อนแอระหว่างสินทรัพย์แบบกระจายอำนาจและตราสารทางการเงินอื่นๆ
Ferranti ชี้แจงว่าการจัดสรร Bitcoin และทองคำอาจไม่ใช่คำตอบสำหรับธนาคารกลางทุกแห่ง อย่างไรก็ตาม สินทรัพย์ดิจิทัลใหม่นี้มีคุณสมบัติในการเก็บรักษามูลค่า และการป้องกันความเสี่ยงเช่นเดียวกับทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสกุลเงินมีค่าลดลงอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าแนวคิดการสำรองเชิงกลยุทธ์จะได้รับความนิยมในหมู่ผู้ถือ Bitcoin แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วยกับความพยายามนี้ โดยทาง ชาร์ลส์ ฮอสกินสัน ผู้ก่อตั้ง Cardano เคยโต้แย้งว่า แม้ว่าการนำ BTC มาใช้ในฐานะสินทรัพย์สำรองเชิงกลยุทธ์จะช่วยเพิ่มราคาของ Bitcoin แต่ก็จะทำให้หน่วยงานของรัฐสามารถมีอิทธิพลต่อเครือข่าย Bitcoin ได้เช่นกัน
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ coinmarketcap.com