รัฐบาลกลางของสหรัฐฯ กำลังสอบสวน Tether ซึ่งเป็นผู้ออก stablecoin โดย The Wall Street Journal รายงานในบทความพิเศษเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม โดยอ้างข้อมูลจาก “บุคคลที่ทราบเรื่องดังกล่าว” ซึ่งทางด้าน Paolo Ardoino ซีอีโอของ Tether เรียกเรื่องนี้ว่า “ข่าวลือเก่าๆ” แต่เรื่องนี้กลับสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งตลาดสกุลเงินดิจิทัล
ตามที่ WSJ รายงานระบุว่า สำนักงานอัยการสหรัฐฯ ประจำเขตตอนใต้ของนิวยอร์ก หรือ กระทรวงยุติธรรม กำลังดำเนินการสืบสวนคดีอาญาเกี่ยวกับการใช้ Tether โดยบุคคลภายนอกเพื่อระดมทุนสำหรับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายหรือฟอกเงินที่เกิดจากกิจกรรมดังกล่าว โดยการสืบสวนดังกล่าวดำเนินมาเป็นเวลา “หลายปี” แล้ว
พร้อมกันนี้ กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาคว่ำบาตร Tether เนื่องจาก “มีการใช้อย่างแพร่หลายโดยบุคคลและกลุ่มต่างๆ ที่ถูกคว่ำบาตรโดยสหรัฐฯ รวมถึงกลุ่มก่อการร้ายฮามาสและพ่อค้าอาวุธชาวรัสเซีย” หนังสือพิมพ์ ฉบับนี้รายงาน
The Wall Street Journal คำนวณว่ามีการซื้อขาย USDT สูงถึง 190,000 ล้านดอลลาร์ต่อวัน
Tether ยังระบุเพิ่มเติมบนเว็บไซต์ว่า
“ถือเป็นความไม่รับผิดชอบอย่างมากที่ WSJ เขียนบทความกล่าวหาอย่างไม่รอบคอบด้วยความมั่นใจเช่นนี้ และไม่มีหน่วยงานใดออกมายืนยันข่าวลือเหล่านี้ และไม่มีการระบุแหล่งที่มาใดๆ”
นอกจากนี้ บทความนี้ยังไม่พูดถึงข้อตกลงอย่างของ Tether กับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการปราบปรามผู้กระทำผิดที่พยายามนำ Tether และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ไปใช้ในทางที่ผิดอีกด้วย” แถลงการณ์ของ Tether กล่าวต่อ
Paolo Ardoino ซีอีโอของ Tether ก็ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างดังกล่าวเช่นกัน โดยโพสต์ข้อความบน X โดยยืนยันว่าไม่มีข้อบ่งชี้ว่า Tether อยู่ระหว่างการสอบสวน
Tether มีบันทึกความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งในเดือนสิงหาคมมีการระบุว่าได้ช่วยให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายกว่า 145 แห่งกู้คืน USDT ที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมผิดกฎหมายได้กว่า 108.8 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2014
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ unchainedcrypto.com