จากการวิเคราะห์ Bitcoin unrealized profit ratio หรืออัตราส่วนกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง เปรียบเทียบกับ วาฬใหม่และเก่าบ่งชี้ว่า ผู้ถือ Bitcoin รายใหญ่ยังคงไม่มีกำไรเพียงพอที่จะเทขายการถือครองจำนวนมากของพวกเขาเข้าสู่ตลาด ตามที่ Ki Young Ju ผู้ก่อตั้ง CryptoQuant อธิบายไว้ในโพสต์เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม
ปลาวาฬ Bitcoin รายใหม่ ซึ่งถือครองสินทรัพย์ดังกล่าวเป็นเวลา 5 เดือนหรือน้อยกว่านั้น จะได้รับกำไรจากการลงทุนเพียง 1% เท่านั้น หากพวกเขาขายในราคาตลาดปัจจุบัน
ส่วนวาฬที่อยู่มานานกว่านั้นจะมีผลงานที่ดีขึ้น โดยมี unrealized profit ratio อยู่ที่ประมาณ 1.27 เมื่อวันที่ 30 กันยายน เมื่อเทียบกับวาฬรุ่นใหม่ที่อยู่ที่ 0.01 อย่างไรก็ตาม Ju ตั้งข้อสังเกตว่าวาฬที่อยู่มานานกว่าเหล่านี้ที่ยังรักษา position ของตนไว้เป็นเวลามากกว่าห้าเดือนนั้น “ไม่ได้รับผลตอบแทนที่สูงเป็นพิเศษ” ในรอบปัจจุบันนี้
Ju สรุปว่าวาฬ Bitcoin ยังไม่น่าจะยอมทิ้งการถือครอง Bitcoin ของพวกเขาออกสู่ตลาดจนกว่าจะมีสภาพคล่องจากนักลงทุนรายย่อยเข้ามา ซึ่งจะทำให้ราคาสูงขึ้น และทำให้ผู้ถือครองรายใหญ่สามารถขายได้
ความตึงเครียดในตะวันออกกลางทำราคา Bitcoin ตกต่ำ
จากความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและอิสราเอลที่ปะทุขึ้นครั้งล่าสุดในตะวันออกกลาง ทำให้กองทุน Bitcoin ETF มีบันทึกยอดไหลออกประมาณ 243 ล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม
การไหลออกเหล่านี้ทำให้ปริมาณเงินที่ไหลเข้าติดต่อกัน 8 วันพลิกกลับเป็นลบ และถือเป็นการลดลงที่สำคัญที่สุดในรอบเกือบหนึ่งเดือน
ความไม่แน่นอนที่เกิดจากความตึงเครียดในเศรษฐกิจมหภาค และภัยคุกคามที่กำลังใกล้เข้ามาจากความขัดแย้งที่กว้างขวางและยาวนาน ทำให้ผู้ลงทุนบางส่วนคาดการณ์ราคาขั้นต่ำของ Bitcoin อยู่ที่ 54,000 ดอลลาร์หรือต่ำกว่าท่ามกลางแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในการถอนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงซึ่งอยู่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงของราคาเศรษฐกิจมหภาค
ด้านนักวิเคราะห์ผู้มากประสบการณ์ Willy Woo แสดงความคิดเห็นในแง่ดีในระยะยาวสำหรับ Bitcoin ว่าจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งก่อนที่ Bitcoin จะกลับมายืนเหนือระดับ 74,000 ดอลลาร์อีกครั้ง โดยคาดว่าเดือนตุลาคมนี้จะค่อนข้างเงียบเหงา และราคาจะเคลื่อนไหว sideway ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ linkedin.com
