เอลซัลวาดอร์ ซึ่งเป็นประเทศแรกที่นำ Bitcoin มาใช้เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย ยังคงสะสมสกุลเงินดิจิทัลนี้อย่างต่อเนื่อง โดยตามข้อมูลล่าสุดจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์บล็อคเชน Arkham Intelligence พบว่า รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้เพิ่ม Bitcoin อย่างต่อเนื่องโดยซื้อ 1 Bitcoin ทุกวันตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม
การเข้าซื้อที่กำลังดำเนินอยู่นี้ทำให้มี Bitcoin เพิ่มขึ้น 162 BTC จากการถือครองของประเทศ ทำให้มีทั้งหมด 5,851 BTC มูลค่าประมาณ 356.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามราคาตลาดปัจจุบัน
ประธานาธิบดี Nayib Bukele ผู้วางแผนการนำ Bitcoin มาใช้ในเอลซัลวาดอร์ ได้สนับสนุนให้สกุลเงินดิจิทัลเป็นช่องทางในการสร้างความเป็นอิสระและนวัตกรรมทางเศรษฐกิจมาโดยตลอด โดยกลยุทธ์ของเขาในการให้รัฐบาลซื้อ Bitcoin วันละ 1 BTC เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในระยะยาวของเขาในการผนวก Bitcoin เข้ากับกรอบการเงินของประเทศ
รัฐบาลของ Bukele เริ่มต้นการซื้อขายด้วยการโอน 5,689 BTC ไปยังกระเป๋าเงินแบบ cold storage เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2024 ซึ่ง Bukele เรียกว่าเป็นการสร้าง “กระปุกออมสิน Bitcoin” แห่งแรกของประเทศ
การซื้อขายดังกล่าวได้รับทั้งความชื่นชมและความกังวลจากชุมชนนานาชาติ ซึ่งผู้สนับสนุนต่างยกย่องแนวทางที่กล้าหาญของ Bukele ว่าเป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่อำนาจอธิปไตยทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่ประสบปัญหาความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจมาอย่างยาวนาน
ความโปร่งใสและผลกระทบในระดับนานาชาติ
ในการพยายามแก้ไขข้อกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใส รัฐบาลได้เปิดตัวเว็บไซต์สำหรับการติดตามการถือครอง Bitcoin ของประเทศโดยการใช้ข้อมูลบนเครือข่ายแบบเรียลไทม์ ซึ่งทำให้สามารถตรวจสอบการถือครอง Bitcoin ของรัฐบาลได้ตลอด
ความคิดริเริ่มนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความไว้วางใจและแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบในการจัดการเงินของรัฐที่ผูกติดอยู่กับการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล
นอกจากการซื้อโดยตรงแล้ว เอลซัลวาดอร์ยังลงทุนในการขุด Bitcoin โดยใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพจากภูเขาไฟที่มีอยู่มากมายในประเทศ โดยตั้งแต่ปี 2021 ประเทศได้ขุด Bitcoin ไปแล้ว 474 BTC มูลค่าประมาณ 29 ล้านดอลล่าร์
แนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับการขุด Bitcoin นี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ Bukele ในการบูรณาการเทคโนโลยีและทรัพยากรธรรมชาติ แม้ว่าจะยังคงเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของกลยุทธ์ Bitcoin ในวงกว้างของประเทศก็ตาม
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ slate.com