ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ปฏิเสธคำร้องของเว็บเทรดคริปโต Kraken ที่ต้องการยกฟ้องคดีของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ที่กล่าวหาว่า Kraken ดำเนินการเว็บเทรดหลักทรัพย์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนตามเอกสารที่ยื่นต่อศาลเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม
ในเดือนพฤศจิกายน SEC ได้ยื่นฟ้อง Kraken ว่า “ดำเนินการแพลตฟอร์มการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลโดยไม่ได้เป็นตลาดหลักทรัพย์ , broker, dealer และ clearing agency ที่จดทะเบียน”
“[SEC] ได้กล่าวหาว่าธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลอย่างน้อยบางส่วนที่ Kraken อำนวยความสะดวกบนเครือข่ายของตนถือเป็นสัญญาการลงทุน และด้วยเหตุนี้จึงเป็นหลักทรัพย์ และด้วยเหตุนี้จึงอยู่ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์” ตามความเห็นของศาลแขวงสหรัฐฯ ในแคลิฟอร์เนียตอนเหนือ
คำตัดสินดังกล่าวถือเป็นอุปสรรคในการต่อสู้ระหว่างอุตสาหกรรมกับ SEC ในการกำหนดว่าสกุลเงินดิจิทัลใดบ้าง (หากมี) ที่เข้าข่ายเป็น “หลักทรัพย์” ตามกฎหมายของสหรัฐฯ และตกอยู่ภายใต้เขตอำนาจของ SEC
“ศาลได้ยืนยันอีกครั้งว่ากรอบการทำงานที่ใช้ในการระบุหลักทรัพย์มาเกือบ 80 ปียังคงใช้ได้ ไม่ว่าจะใช้ป้ายกำกับใดก็ตาม” โฆษกของ SEC กล่าวในแถลงการณ์ “นักลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่เสนอหรือขายเป็นหลักทรัพย์ควรได้รับการคุ้มครองเช่นเดียวกับนักลงทุนในหลักทรัพย์อื่น ๆ แม้ว่าจะซื้อขายผ่านตัวกลางก็ตาม”
แพลตฟอร์มการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลควรลงทะเบียนกับ SEC และ “ต้องแน่ใจว่ามีมาตรการป้องกันการฉ้อโกงและการจัดการ , การผสมผสานทรัพย์สินของลูกค้า , และความขัดแย้งทางผลประโยชน์
คำตัดสินเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ยืนยันถึงคำจำกัดความที่ครอบคลุมของสิ่งที่ประกอบเป็น “หลักทรัพย์” โดยไม่เพียงแต่พิจารณาจากสัญญาการลงทุนอย่างเป็นทางการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริบทที่กว้างขึ้นซึ่งในกรณีนี้คือสินทรัพย์เสมือน
ในโพสต์บนแพลตฟอร์ม X เมื่อวันที่ 23 ส.ค. Marco Santori หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของ Kraken กล่าวว่า ศาลได้ “ตัดสินตามกฎหมายว่าโทเค็นที่ซื้อขายบน Kraken ไม่ถือเป็นหลักทรัพย์”
“โดยพื้นฐานแล้ว ศาลในคดีของ Kraken ได้แยกแยะเช่นเดียวกับในคดี Ripple: โทเค็นไม่ถือเป็นหลักทรัพย์ แต่ข้อตกลงต่างๆ ที่เกี่ยวกับโทเค็นสามารถถือเป็นหลักทรัพย์ได้” ตามที่ Santori กล่าว
ด้วยเหตุนี้ SEC “จะต้องพิสูจน์ว่าปัจจัย Howey Test เป็นไปตามข้อกำหนดของธุรกรรมที่ถูกกล่าวหาบน Kraken ทุกรายการ ซึ่งไม่เป็นความจริง และเราหวังว่าจะสามารถพิสูจน์เรื่องนี้ได้”
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ cryptoslate.com