ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) และธนาคารแห่งอังกฤษ ได้เผยแพร่ผลโครงการ Pyxtrial ที่ติดตามทุนสำรองของ stablecoins ที่สนับสนุนด้วยสินทรัพย์และ tokenized assets โดย Pyxtrial ถือเป็น proof-of-concept และเป็น “ก้าวแรกที่สำคัญ”
ระบบนี้ยังไม่พร้อมสำหรับการเปิดตัวโดยสิ้นเชิง และผู้สร้างได้ระบุไว้ว่า โลกก็ยังไม่พร้อมสำหรับระบบนี้เช่นกัน เนื่องจากกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ระบบนี้จะช่วยบังคับใช้นั้นยังอยู่ในระหว่างการจัดทำเป็นส่วนใหญ่
โซลูชันของระบบนี้ประกอบด้วยโมเดลข้อมูล , ฐานข้อมูล , และ application programming interfaces (APIs) ซึ่งข้อมูลที่ประมวลผลแล้วจะพร้อมให้หน่วยงานกำกับดูแลและผู้ดูแลสามารถตรวจสอบได้ผ่านแดชบอร์ดที่ปรับแต่งได้ ซึ่งระบบนี้ไม่ได้ทำงานอัตโนมัติทั้งหมด:
“Pyxtrial ไม่ได้ประเมินคุณภาพสินทรัพย์ , ความเข้มงวดในการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ , หรือคุณภาพของแหล่งข้อมูลที่ใช้ ดังนั้น […] ผู้กำกับดูแลอาจต้องมีส่วนร่วมในการกำหนดกฎเกณฑ์หรือแนวทางเกี่ยวกับคุณภาพข้อมูล”
Pyxtrial ได้รับการออกแบบมาเพื่อรวบรวมข้อมูลรายชั่วโมงจากบล็อคเชนและแพลตฟอร์มที่โฮสต์ stablecoin จากนั้นข้อมูลดังกล่าวจะถูกจับคู่กับข้อมูลจากผู้จัดทำเกี่ยวกับสินทรัพย์ที่หนุนหลังของ stablecoin โดยข้อมูลที่ประกาศด้วยตนเองที่ได้รับจากผู้จัดทำอาจไม่เพียงพอในหลายๆ ด้าน ซึ่งผู้ใช้ Pyxtrial จำเป็นต้องให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายระบุข้อมูลที่ต้องส่ง และที่สำคัญคือความถี่ในการส่งข้อมูล
โครงการที่เกี่ยวข้องอย่าง Atlas ก็อาจนำมาใช้เพื่อจัดหาข้อมูลบางส่วนให้กับ Pyxtrial โดยโครงการ Atlas ทำงานในลักษณะเดียวกัน โดยรวบรวมข้อมูลบนเครือข่ายจากเว็บเทรดสกุลเงินดิจิทัลและบล็อกเชนสาธารณะ รวมถึงข้อมูลนอกเครือข่าย จากนั้นจะประมวลผลข้อมูลเหล่านี้ตามความต้องการของธนาคารกลาง
ผู้เขียนรายงานระบุว่า ผู้ปฏิบัติงานจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อคเชนและกฎระเบียบอย่างครอบคลุม ในทางกลับกัน Pyxtrial สามารถปรับให้เข้ากับการตรวจสอบสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ เช่น หลักทรัพย์หรือพันธบัตรที่แปลงเป็นโทเค็นได้อย่างง่ายดาย
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ cryptoslate.com