รายงานใหม่จาก Business Insider Intelligence ระบุว่าสถาบันการเงินส่วนใหญ่ได้ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อปรับปรุงระบบการชำระเงิน , การชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ , การตรวจจับการฉ้อโกงและการเงินการค้า
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม รายงานการวิเคราะห์จากสถาบันการเงินและบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลก รวมถึง Australia and New Zealand Banking Group, Bank of America, Citi Bank, HSBC, Ripple, Visa, Fidelity Investments และ CME Group
ประโยชน์หลักจาก Blockchain
ผลการวิจัยพบว่า 66% ของสถาบันการเงินที่สำรวจ มองเห็นประโยชน์ที่สำคัญของ blockchain และเทคโนโลยี distributed ledger ในระบบการชำระเงิน ในขณะที่ 56% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า การชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ (securities settlement) เป็นประโยชน์หลักของ Blockchain
41% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า การตรวจจับการฉ้อโกงและความปลอดภัย เป็นหนึ่งในกรณีการใช้งานอันดับต้น ๆ ของ blockchain ในทางปฏิบัติ ในขณะที่ 38% ของผู้เข้าร่วมการสำรวจเห็นว่าการใช้งานหลักของ blockchain คือในด้านการเงินการค้า (trade finance)
ปัญหาหลักของการปรับใช้ Blockchain
ตามรายงานพบว่า สถาบันการเงินยังคงกังวลเกี่ยวกับการใช้งาน Blockchain ในเชิงพาณิชย์ เนื่องจากความไม่แน่นอนของกฎระเบียบและความยากลำบากในการรวบรวมผู้เข้าร่วมการแข่งขัน นอกจากนี้การวิเคราะห์ยังชี้ให้เห็นถึงความสงสัยที่ก่อตัวเพิ่มขึ้นรอบ ๆ Blockchain โดยเริ่มมีสถาบันการเงินออกมาโจมตีเกี่ยวกับ Blockchain กันบ้างแล้ว
จากการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ของ บริษัทวิจัยตลาด Research Dive คาดว่า ขนาดของตลาด blockchain Internet of Things ทั่วโลกจะสูงถึง 5,802.7 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2026 อย่างไรก็ตาม การขาดความตระหนักของ บริษัทอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการคาดการณ์ที่นี้
ในขณะเดียวกันธนาคาร China Everbright Bank ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ในประเทศจีน และเป็นหนึ่งในบริษัท มหาชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เปิดตัวโซลูชั่นทางการเงินด้านซัพพลายเชนโดยใช้บล็อกเชนของ Ant Financial ขณะที่สถาบันการเงินสำคัญ ๆ ในยุโรปก็กำลังร่วมกันเปิดตัวแพลตฟอร์มบล็อกเชนสำหรับอุตสาหกรรม investment fund
