ในบล็อกโพสต์ใหม่ของ Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้แบ่งปันความคิดของเขาใน 3 ประเด็นหลักในการกระจายอำนาจของ Ethereum นั่นคือ : MEV, liquid staking และข้อกำหนดฮาร์ดแวร์ของโหนด
Buterin ตั้งข้อสังเกตว่า ความกังวลเกี่ยวกับการออกแบบของ Ethereum ในประเด็นสำคัญทั้งสามนี้ “มีการแบ่งปันกันอย่างกว้างขวาง” และเสริมว่า “สิ่งเหล่านี้เป็นข้อกังวลของผมมาหลายครั้งเป็นการส่วนตัว” อย่างไรก็ตาม Buterin กล่าวว่าปัญหาต่าง ๆ อาจแก้ไขได้ไม่ยากอย่างที่บางคนกล่าวอ้าง
ในโพสต์ของเขา ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม Buterin กล่าวถึงปัญหาของ MEV โดย Buterin อธิบายลักษณะของ MEV สองแนวทางว่า “การลดขนาด” (การลด MEV ผ่านการออกแบบ smart protocol เช่น CowSwap) และ “การกักกัน” (พยายามลดหรือกำจัด MEV พร้อมกันผ่านเทคนิคในโปรโตคอล)
แม้ว่าการกักกัน MEV ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่น่าดึงดูด แต่ Buterin ตั้งข้อสังเกตว่า โอกาสนี้มาพร้อมกับความเสี่ยงจากการรวมศูนย์ “หากผู้สร้างมีอำนาจในการแยกธุรกรรมออกจากบล็อกโดยสิ้นเชิง ก็จะมีการโจมตีเกิดขึ้นได้ง่าย” Buterin กล่าว อย่างไรก็ตาม Buterin สนับสนุนผู้สร้างที่ทำงานเกี่ยวกับการกักกัน MEV ผ่านแนวคิด เช่น transaction inclusion lists ซึ่ง “ดึงความสามารถของผู้สร้างในการผลักดันธุรกรรมออกจากบล็อกโดยสิ้นเชิง”
“ผมคิดว่าแนวคิดต่าง ๆ ในทิศทางนี้ การกักกันให้เล็กที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ที่สุด และผมก็เห็นด้วยกับการไปในทิศทางนั้น” Buterin สรุป
Liquid Staking และการทำงานของโหนด
Buterin ยังกล่าวถึงจำนวน solo Ethereum stakers ที่ค่อนข้างต่ำ เนื่องจากผู้ stake ส่วนใหญ่เลือกที่จะ stake กับผู้ให้บริการมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอแบบรวมศูนย์เช่น Coinbase หรือข้อเสนอแบบกระจายอำนาจเช่น Lido หรือ RocketPool และเมื่อคำนึงถึงความซับซ้อน , ข้อกำหนดด้านฮาร์ดแวร์ , และขั้นต่ำที่สูงถึง 32 eth เพื่อดำเนินการ Ethereum node solo
Buterin รับทราบถึงความคืบหน้าในการลดต้นทุนและความซับซ้อนในการรัน solo node และเขายังตั้งข้อสังเกตอีกว่า “ยังมีอีกหลายอย่างที่เราสามารถทำได้” โดยอาจลดเวลาในการถอน Stake Ether หรือลดข้อกำหนดขั้นต่ำ 32 eth สำหรับ solo staker”
ปัญหาความต้องการฮาร์ดแวร์ที่สูงสำหรับโหนดดูจะยุ่งยากกว่าสำหรับ Buterin แม้ว่าเขาจะยอมรับว่าด้วย Verkle Trees และ EIP-4444 ที่กำลังจะมาถึง “ความต้องการฮาร์ดแวร์ของโหนดอาจเป็นไปได้ว่าในที่สุดจะลดลงเหลือน้อยกว่า 100 กิกะไบต์ และอาจเกือบจะ- เป็นศูนย์ หากเรากำจัดการจัดเก็บประวัติ (อาจเฉพาะสำหรับโหนด non-staking เท่านั้น) โดยสิ้นเชิง”
Buterin สรุปโพสต์ของเขาด้วยการขอร้องให้ระบบนิเวศของ Ethereum จัดการกับคำถามยาก ๆ แทนที่จะอายที่จะตอบคำถามเหล่านั้น “…เราควรให้ความเคารพอย่างลึกซึ้งต่อคุณสมบัติที่ทำให้ Ethereum มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และยังคงทำงานต่อไปเพื่อรักษาและปรับปรุงคุณสมบัติเหล่านั้น” Buterin เขียน
“ผมภูมิใจจริงๆ ที่ ethereum ไม่มีวัฒนธรรมในการพยายามป้องกันไม่ให้ผู้คนได้พูดความคิดของตนเอง แม้ว่าพวกเขาจะมีความรู้สึกเชิงลบอย่างมากต่อสิ่งสำคัญในโปรโตคอลหรือระบบนิเวศก็ตาม” Buterin เขียน
อ้างอิง : theblock.co
