เนื่องจากใกล้ถึงกำหนดเส้นตายสำหรับการตัดสินใจอนุมัติ Spot Ether ETF โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) แล้ว ทางด้านผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมก็ออกมาเผยถึงศักยภาพในการลงทุนของกองทุนดังกล่าว
บางคนก็กล่าวว่าการลงทุนใน ether ETF นั้นไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากกองทุนดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะไม่อนุญาตให้มีการกระจายรางวัลจากการ staking และนักลงทุนจะทำกำไรได้ดีกว่าถ้าซื้อและ staking ETH ของตนเอง
แต่ VanEck บริษัทการลงทุนระดับโลกซึ่งมี Bitcoin Trust (HODL) เป็นหนึ่งใน 10 Spot bitcoin ETF ที่วางจำหน่ายเมื่อต้นปีนี้ คิดว่า ether ETF สามารถดึงดูดความต้องการจำนวนมากได้
“จากมุมมองของตลาด ส่วนหนึ่งของผมเชื่อว่าขนาดตลาดสำหรับ Spot ETH ETF นั้นอาจมีขนาดใหญ่พอ ๆ กันหรือใหญ่กว่า Spot Bitcoin ETF” Pranav Kanade ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของ VanEck กล่าว
“โลกของนักลงทุนที่กำลังมองหาสินทรัพย์ที่สร้างเงินสดนั้นมีขนาดใหญ่มาก และ ETH ก็สร้างค่าธรรมเนียมให้กับผู้ถือโทเค็นอย่างชัดเจน แม้ว่าคุณจะไม่มี ETF ที่สามารถเสนอการ staking ได้ แต่มันก็ยังเป็นสินทรัพย์ทีสร้างกระแสเงินสดได้ดังนั้นผมคิดว่า ETH น่าจะเป็นสินทรัพย์สำหรับผู้คนมากกว่า Bitcoin”
เนื่องจาก Ethereum ใช้กลไก Proof of Stake ผู้ถือ Ether สามารถรับผลตอบแทนจากการ “staking” ตัวอย่างเช่นบน Coinbase ผู้ที่ staking ETH สามารถรับผลตอบแทนประมาณ 3%
แต่ถึงกระนั้น โอกาสที่ SEC จะอนุมัติผลิตภัณฑ์ Spot Ether ETF นั้นยังห่างไกลจากความมั่นใจ หลังจากเมื่อเร็ว ๆ นี้ นักวิเคราะห์จาก Bloomberg ได้ลดโอกาสที่จะมีการให้ไฟเขียวเหลือเพียง 30% จากที่เคยคาดไว้ที่มากกว่า 50%
VanEck ซึ่งมี ETF มากกว่า 68 ตัวอยู่ภายใต้การดูแล เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ประกาศลดค่าธรรมเนียมการจัดการ Bitcoin Trust ชั่วคราวจาก 0.2% เหลือ 0% โดยอัตราดอกเบี้ย 0% ยังคงอยู่จนถึงเดือนมีนาคม 2025 หรือจนกว่ากองทุนจะได้รับ AUM สูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์
“เรารับฟังนักลงทุนของเรา และเห็นได้ชัดว่านั่นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนในตลาด ดังนั้นเราจึงเปลี่ยนมัน” เขากล่าวต่อ “และส่วนหนึ่งของความคิดริเริ่มนั้นคือการยกเว้นค่าธรรมเนียม”
อ้างอิง : coindesk.com
ภาพ cryptorank.io