โทเค็นที่ใหญ่ที่สุดจำนวนมากกำลังเผชิญกับความเสี่ยงด้านการกำกับดูแลที่สำคัญ โดยไม่ได้มีการปฏิบัติตามแนวทางที่ดีที่สุดในการป้องกันการหาประโยชน์และภัยคุกคามด้านความปลอดภัยอื่น ๆ
ตามการวิเคราะห์จาก De.Fi บริษัท Web3 พบว่าโทเค็น 429 รายการที่มีกรอบการกำกับดูแล เกือบ 75% มีปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสัญญา รวมถึงเจ้าของที่ซ่อนอยู่และกระเป๋าเงินที่ได้รับอนุญาตพิเศษ
มีเพียง 16.6% ของสัญญาที่วิเคราะห์เท่านั้นที่ได้รับการจัดการโดยกระเป๋าเงิน multisig ซึ่งต้องใช้รหัสส่วนตัวที่แตกต่างกันถึง 5 รหัสเพื่ออนุมัติธุรกรรมใด ๆ ซึ่งแอปพลิเคชั่นนี้ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือในการลดความเสี่ยงจากการฟิชชิ่งและการแฮ็กจากมัลแวร์ได้ ตามรายงานของบริษัทระบุ
นอกจากนี้ สัญญาโทเค็นมากกว่า 38% ได้รับการจัดการโดยกระเป๋าเงินหรือบัญชีภายนอก ซึ่งหมายความว่า “กระเป๋าเงินสามารถเรียกใช้ฟังก์ชันสิทธิพิเศษของสัญญาได้ตลอดเวลา” ตามการวิเคราะห์ของ De.Fi โดยระดับความเสี่ยงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสิทธิ์ที่ได้รับมอบหมาย:
“ตัวอย่างเช่น หากกระเป๋าเงินสามารถกำหนดค่าธรรมเนียมโปรโตคอลภายในขีดจำกัดคงที่ที่เหมาะสมเท่านั้น ก็อาจไม่มีความเสี่ยงตรงนี้ แต่หากสามารถแทนที่ที่อยู่ที่สำคัญในสัญญาได้ เช่น ราคาและกลยุทธ์ของ vault ตรงนี้สินทรัพย์ของผู้ใช้ก็จะตกอยู่ในอันตรายโดยตรง”
อีก 6.8% คือการซ่อนความเป็นเจ้าของ ซึ่งช่วยให้ผู้สร้างสัญญาเพิกถอนการเป็นเจ้าของและลงคะแนนเสียงยับยั้งได้ นอกจากนี้ มีเพียง 10% ของโทเค็นเท่านั้นที่มีการ renounced contracts ซึ่งหมายความว่าผู้สร้างได้สละสิทธิ์ในการแก้ไขโค้ดหรือคุณสมบัติการกำกับดูแล ซึ่งจะเป็นการปรับปรุงการกระจายอำนาจ
“ที่น่าตกใจคือมีโครงการจำนวนมากให้การรักษาความปลอดภัยของคลังทั้งหมดอยู่ในมือของเจ้าของกระเป๋าเงินเพียงคนเดียว โดยส่วนใหญ่แล้วเจ้าของเหล่านี้จะถูกซ่อนไว้ ซึ่งหมายความว่าผู้เข้าร่วม DAO ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าใครเป็นผู้จัดการกองทุน และสิ่งนี้นำไปสู่มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในช่องโหว่ในการควบคุมการเข้าถึง และ rug pull” Artem Bondarenko หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของ De.Fi กล่าว
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ coinscreed.com
