Star Xu ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ OKX ออกมาขอโทษผู้ใช้งานผ่านโพสต์อย่างเป็นทางการ หลังมีรายงานว่าแพลตฟอร์ม OKX ดำเนินการ “แช่แข็งบัญชี” ของผู้ใช้งานอย่างไม่ถูกต้อง แม้ผู้ใช้จะยื่นเอกสารยืนยันตัวตนครบถ้วนตามที่ระบบร้องขอแล้วก็ตาม
“เราขออภัยอย่างจริงใจสำหรับความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น” Xu กล่าว พร้อมยอมรับว่าระบบตรวจสอบความเสี่ยงและกระบวนการเก็บข้อมูลเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายยังคงมีจุดบกพร่อง โดยเฉพาะในแง่ของ “อัตราการแจ้งเตือนผิด (False Positive)” ที่ยังคงสูงเกินไป
ระบบ Compliance ยังไม่สมบูรณ์แบบ
Xu อธิบายว่า หนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของการปฏิบัติตามกฎระเบียบระดับโลกคือการที่ระบบ “ระบุผู้ใช้งานปกติว่าเป็นความเสี่ยง” หรือ false positive ซึ่งเกิดขึ้นได้แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด
“หลายแพลตฟอร์มเลือกใช้กลยุทธ์ที่ระมัดระวังเกินไป เพื่อให้แน่ใจว่าตนเองไม่ละเมิดกฎระเบียบ จึงมักมีการร้องขอเอกสารเพิ่มเติม แม้ผู้ใช้งานจะดูปกติไม่มีความเสี่ยงก็ตาม”
เขายังเปรียบเทียบประสบการณ์ของผู้ใช้งานว่า บางครั้งรู้สึกเหมือนถูกขอให้พิสูจน์ว่า “พ่อคือพ่อของคุณจริงหรือเปล่า” จากกระบวนการที่ยุ่งยากเกินความจำเป็น
ปัจจุบัน OKX มีทีมปฏิบัติตามกฎระเบียบที่มีสมาชิกมากกว่า 600 คนทั่วโลก แต่ Xu ก็ยอมรับตรง ๆ ว่า:
“ในความเป็นจริง ไม่มีระบบใดในโลกที่สามารถกำจัด false positive ได้หมด 100%”
ปมปัญหาเริ่มจากผู้ใช้งานร้องเรียนบน X
ต้นตอของเรื่องมาจากผู้ใช้งานรายหนึ่งที่โพสต์บนแพลตฟอร์ม X (Twitter) ระบุว่าบัญชีของเขาถูกล็อกตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน และถูกปฏิเสธซ้ำ ๆ ระหว่างขั้นตอนยืนยันตัวตน แม้จะส่งเอกสารครบทุกอย่าง
Xu ได้แชร์โพสต์ของผู้ใช้งานรายนี้ต่อบนบัญชีส่วนตัวที่มีผู้ติดตามกว่า 130,000 คน เพื่อแสดงความโปร่งใส
ผู้ใช้ยังเล่าว่า เขาถูกขอให้ระบุประวัติการทำงานย้อนหลัง 10 ปี, เอกสารจ้างงานย้อนหลัง 5 ปี และข้อมูลละเอียดของนายจ้าง และสุดท้ายเอกสารยืนยันแหล่งที่มาของเงินทุนก็ถูกปฏิเสธ เนื่องจาก “ข้อมูลไม่ตรงกับตัวเลือกของระบบ”
OKX เตรียมปรับปรุงขั้นตอนใหม่
แม้ Xu จะไม่ให้รายละเอียดชัดเจนว่า OKX จะมีการเปลี่ยนแปลงระบบเมื่อใดและอย่างไร แต่การออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการครั้งนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่แพลตฟอร์มต้องเร่งพัฒนาระบบตรวจสอบให้แม่นยำยิ่งขึ้น และไม่กระทบผู้ใช้งานที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างถูกต้อง
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ ainvest.com
