ตลาด Bitcoin ร้อนแรงอีกครั้ง หลังมูลค่าเปิดสัญญาฟิวเจอร์ส (Open Interest) ทะลุ $72,000 ล้านดอลลาร์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม เพิ่มขึ้นกว่า 8% ภายในหนึ่งสัปดาห์
แรงผลักดันสำคัญมาจากนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะในตลาด CME ที่ครองมูลค่า $16.9 พันล้าน ตามมาด้วย Binance ที่ $12 พันล้าน
ช่วงราคาสำคัญที่ทั่วโลกจับตาคือ $107,000 ถึง $108,000 เนื่องจากมีสถานะที่ “คาดว่าราคาจะลดลง” มูลค่ากว่า $1,200 ล้าน รอการปิดอัตโนมัติหาก BTC ทะลุแนวต้านได้
หาก Bitcoin พุ่งทะลุระดับนี้ จะเกิดการ “ล้างสถานะ” หรือที่เรียกว่า short squeeze ดันราคาขึ้นแรงต่อเนื่อง มีโอกาสสร้าง All-Time High ใหม่
นอกจากนี้ ปัจจัยเศรษฐกิจโลกก็เอื้อต่อ BTC เช่นกัน โดยเฉพาะความกังวลเรื่องหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ และการลดความต้องการถือพันธบัตรระยะยาว ที่ผลักให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงใหม่
ในขณะที่ทองคำยังคงครองแชมป์สินทรัพย์ปลอดภัย ด้วยมูลค่ากว่า $22 ล้านล้าน และราคาขึ้นแล้ว 24% ในปีนี้ แต่การถือครองทองคำก็เริ่มถูกท้าทาย
รายงานเผยว่า บางประเทศเริ่มพิจารณาเปลี่ยนทองคำสำรองเพียง 5% เป็น Bitcoin ซึ่งเทียบเท่ากับเม็ดเงิน $105,000 ล้าน หรือประมาณ 1 ล้าน BTC ที่ราคาประมาณ $105,000 ต่อเหรียญ
บริษัท Strategy ของ Michael Saylor ก็ยังคงเดินหน้าซื้อ Bitcoin ไม่หยุด ล่าสุดถืออยู่กว่า 576,230 BTC แล้ว
หาก BTC ทะลุแนว $108,000 ได้จริง การปิดสถานะขายจำนวนมากอาจเป็นเหมือนน้ำมันราดกองไฟ ส่งให้ราคาขึ้นรุนแรงต่อเนื่อง
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ thecurrencyanalytics.com
